วันอังคารที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ปัญหาเด็กแว้นที่ไร้ทางออก นาย สุรนาท เศวตเศรนี 53242773


รายงานวิชา830029 ปัญหาและประเด็นสำคัญด้านการพัฒนา
บทความเรื่อง ปัญหาการอย่าร้างในสังคมไทย
นาย สุรนาท เศวตเศรนี 53242773
คณะสังคมศาสตร์ สาขาพัฒนาสังคม ชั้นปีที่ 3
------------------------------------------------------------------------------------------------------------

บทความเรื่อง ปัญหาเด็กแว้นที่ไร้ทางออก
                         วันที่พ่อแม่มีความสุขหลังจากซื้อรถมอเตอร์ ไซค์ให้ลูกตามคำขอ คล้อยหลังไม่นานก็รู้สึกผิด หลังจากลูกซิ่งมอเตอร์ไซค์จนเสียชีวิต บทเรียนราคาแพงที่แลกมาด้วยชีวิต กี่หยาดน้ำตาต้องเสียใจเพราะมารู้ทีหลังว่า ลูกเป็น "เด็กแว้น" แต่ยังมีเด็กรุ่นใหม่เข้ามาวงการนี้ ไม่หยุดหย่อน ต่อแถวเพื่อก้าวไปสู่การเป็น "ตัวขี่" ซึ่งได้รับการยอมรับจากนักบิดสนามเถื่อน ดูเหมือนปัญหา "เด็กแว้น" กับสังคมไทยเรื้อรังมานานและทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆขณะที่สังคมตีตราสิงห์นักบิดเหล่านี้   ไม่ต่างจากขยะสังคม ความจริงเด็กพวกนี้ชีวิตอาจกำลังติดหล่ม รอคอยให้ผู้ใหญ่ฉุดเขาขึ้นไปสู่สิ่งที่ดีกว่า หากย้อนกลับไปมีความพยายามของหลายหน่วยงานยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ แต่ไม่นานก็หายไป เด็กแว้นหรือแซปนั้น มีผู้สันนิษฐานว่ามาจาก "แซปคุง" (Zabbkung) ซึ่งเป็นตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นมาในโอกาสครบรอบ 7 ปีของสตูดิโอเขียนการ์ตูน มอนสเตอร์คลับ (สตูดิโอของคนไทย ผู้วาดการ์ตูนเรื่อง Joe the Sea-cret Agent) ส่วนคำว่าแว้นนั้น มาจากเสียงท่อไอเสียที่ดัดแปลงให้เสียงดังขึ้น รวมไปถึงเสียงดังที่เกิดจากการบิดหนีตำรวจ แต่ก่อนสมัยเครื่องยนต์ 2 จังหวะ เมื่อบิดก็จะเกิดเสียงดัง "แว้น ๆๆๆ" ในอดีตระหว่างคำสองคำนี้จะใช้แตกต่างกัน "เด็กแซป" นั้นไม่ได้จำกัดเฉพาะวงการมอเตอร์ไซด์ แต่จะเหมารวมถึงกลุ่มเด็กที่ชอบทำตัวให้โดดเด่นสะดุดสายตาชาวบ้านด้วยวิธีการผิด ๆ เพื่อให้เป็นที่สนใจ เช่น การชกต่อยในงานฟรีคอนเสิร์ต ใส่เสื้อผ้าสีสันบาดตา ไม่เรียนหนังสือ มั่วสุมอยู่แถวโต๊ะสนุกเกอร์ แต่ที่พวกเด็กแซปชื่นชอบมากเป็นพิเศษ คือ การดัดแปลงรถมอเตอร์ไซค์ และรวมตัวกันเป็นแก๊ง และในที่สุดก็ได้พัฒนากลายมาเป็น "เด็กแว้น" เด็กแว้นมักจะใส่กางเกงขาเดฟฟิตมาก ๆ รัดเป้าหรือกางเกงยีนกระบอกปลายลากพื้น พร้อมเสื้อสีดำตัวเล็ก หรือเสื้อที่มีสกรีนลายชื่อนักร้องวงต่างๆ บางรายอาจจะแสดงความมั่นใจขึ้นมาอีกระดับหนึ่งด้วยการใส่เสื้อลายตัดอ้อยและกางเกงขาสั้น ส่วนใหญ่จะใส่รองเท้าแตะแบบนิ้วคีบรุ่น ตราช้างดาว พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ ผอ.สำนักพัฒนาสุขภาพจิต กล่าวว่า "วัยรุ่นที่เสพติดความสนุกสนานในลักษณะชอบความป่วนอันเนื่องมาจากปัญหาพัฒนาการโดยตรง เช่น ล้มเหลวเรื่องการเรียน ความล้มเหลวนี้ทำให้พวกเขาไปแสวงหาความสนใจหรือการได้รับการยอมรับนอกห้องเรียน" จิตแพทย์ระบุว่าพฤติกรรมของเด็กแว้นถือเป็นพฤติกรรมการเสพติดชนิดหนึ่ง ซึ่งเวลาเด็กเสพความตื่นเต้นบ่อย ๆ ก็จะติด เช่นเดียวกับ การติดเกมหรือติดการพนัน การกระทำต่างๆของเด็กแว้น สร้างความเดือดร้อนทางเสียงให้กับชาวบ้าน กลับกลายเป็นแก๊งอันธพาล ยิงกัน ยกพวกตีกันปาหิน ฯลฯ เริ่มมีเรื่องของการพนัน ยาเสพติด ปัญหาทางเพศ อุบัติเหตุ ไปจนถึงการก่ออาชญากรรม บางแก๊งมีเป็นร้อยคนมีขาใหญ่คุม ตั้งแก๊งแข่งรถบนถนนสายใหญ่ ในกลุ่มมีสมาชิกตั้งแต่ไม่ถึง 10 ขวบ และยังไม่ได้เรียนหนังสือ ก็มาขอเข้ากลุ่ม และบางกลุ่มใช้แรงจูงใจให้ถอยรถมอเตอร์ไซค์ได้เพียงใช้เงิน 199 บาท ส่วนใหญ่ที่เด็กแว๊นได้นิยมพวกรถ ที่เป็นรถออโต้เมติก เช่น ฟีโน่ หลังจากนั้นเด็กจะขอเงินพ่อแม่มาแต่งรถ ตั้งแต่หลักพันถึงหลักหมื่น เพื่อให้รถแรงแข่งชนะคนอื่น แข่งขันกันบนถนนหลวงเส้นยาว ๆ ทุกคืนวันศุกร์และเสาร์ ซึ่งบางกลุ่มยังใช้เป็นเครือข่ายส่งยาเสพติด หรือถูกหาประโยชน์จากหัวหน้ากลุ่ม ซึ่งปัญหาทั้งหมดยังหาวิธีการแก้ไขที่ตรงจุดไม่ได้
                         ปัญหาของเด็กแว้น
แก๊งวัยรุ่นกวนเมือง เริ่มจะสร้างปัญหาให้กับสังคมได้ประมาณสัก 6-7 ปี ทว่าในช่วง 2-3 ปีนี้เริ่มจะหนักข้อเรื่อยๆ จากการที่ชอบความเร็วแล้วนำรถมาแข่ง สร้างความเดือดร้อนทางเสียงให้กับชาวบ้าน ต่อมาก็เริ่มมีเรื่องของการพนัน ยาเสพติด ปัญหาทางเพศ อุบัติเหตุ ไปจนถึงการก่ออาชญากรรมปัญหา เด็กแว้น สะท้อนให้เห็นถึงหลายปัญหาของสังคมไทย ทั้งปัญหาครอบครัว พ่อ แม่ ผู้ปกครองไม่มีเวลาดูแล อบรมสั่งสอนลูกหลาน  ปัญหาทางการศึกษา เด็กขาดวุฒิภาวะในการเรียนรู้ มีค่านิยมผิดๆ แยกแยะสิ่งดีไม่ดีไม่ได้ สำหรับตัววัยรุ่นเองกลับ ไม่ได้ตระหนักถึงปัญหาที่สร้างขึ้น โดยที่ยังมีความเชื่อในสิ่งที่ไร้สาระ อาทิ มอเตอร์ไซด์  ความเร็ว พวกพ้อง ศักดิ์ศรีบนท้องถนนที่ผ่านมา  หลายคนเคยพูดในประเด็นของกฏหมาย ว่าตัวบทลงโทษอ่อนเกินไป  สัปดาห์ที่ผ่านมาเราเลยได้เห็นแก๊งซิ่งหายซ่า เพราะโดนคุมขังจริงๆ ไม่ใช่เสียค่าปรับแล้วปล่อยกลับบ้านอย่างที่แล้วๆมา  ซึ่งหลายคนก็หวังว่าเยาวชนเหล่านี้จะสำนึกและกลับตัวได้บ้างกระนั้น การที่จะให้เจ้าหน้าที่ไปไล่กว้านจับเด็กแว้นมาขังทุกคืน ก็ไม่ใช่ทางแก้ปัญหาที่ถูกจุดนัก  ก่อนหน้านี้เคยมีนโยบายที่ว่ากันว่าจะนำมาปัดฝุ่นใหม่ คือการสร้างสนามแข่งถูกกฏหมายให้แก๊งซิ่งมอเตอร์ไซด์  เขาทำนองว่าต้อต้านไม่ได้ก็เข้าร่วมซะเลย  ซึ่งก็มีหลายฝ่ายที่คัดค้าน เนื่องจากเห็นว่าเป็นการสนับสนุนในทางที่ไม่สร้างสรรค์ เปลืองงบประมาณ และเป็นการให้ความสำคัญกับเด็กแว้นมากเกินไปกระแสตอบรับจากกลุ่มเด็กแว้นก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเขาไม่ชอบแข่งกันตอนกลางวันเพราะอากาศร้อน รวมทั้งสนามถูกกฏหมายก็ไม่มีอิสระและมากไปด้วยกฏเกณฑ์ ที่ต้องใส่หมวกกันน็อก ห้ามมีคนซ้อนท้าย ฯเด็กแว้นจึงยังคงเป็นปัญหาที่อยู่คู่กับสังคมไทยต่อไป คล้ายกับปัญหานักเรียนอาชีวะฆ่ากัน ที่เกิดขึ้นซํ้าแล้วซํ้าเล่าจนสังคมเริ่มที่จะชาชิน
                         สาเหตุที่ทำให้เป็นเด็กแว้นครอบครัวมีปัญหาวัยรุ่นจึงต้องหาที่ระบายอย่างผิดวิธีเพื่อนชักชวน ทำตามเพื่อน  และตามกระแสนิยมพ่อแม่ตามใจเกินจึงทำให้ลูกทำตามใจตนเองมากเกินไปมองว่าการกระทำของเด็กแว้นนั้นมีความเท่(เห็นกงจักรเป็นดอกบัว)ชอบก่อความวุ่นวาย เรียกร้องความสนใจชอบความเสี่ยง ท้าทายกฎหมาย ท้าทายกฎของสังคม
                         ผลที่ตามมาจากการกระทำของเด็กแว้น
1.ผลกระทบต่อตัวเอง
-ทำให้ตัวเองบาดเจ็บหรือเสียชีวิตเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
-ทำให้เสียอนาคต  เสียการเรียน
-ทำให้สิ้นเปลืองทรัพย์สินเงินทอง  ที่หมดไปกับเรื่องไร้สาระ
-คนในสังคมมองในทางไม่ดี  เกเร
-เกิดปัญหาทับถมเข้าตัว
2.ผลกระทบต่อครอบครัว
-ทำให้ครอบครัวเสื่อมเสียชื่อเสียงวงศ์ตระกุูล
-ทำให้พ่อแม่เกิดความวิตกกังวลเมื่อลูกออกไปแว้น
-ครอบครัวมีรายจ่ายเพิ่มขึ้นเนื่องจากลูกขอเงินไปแต่งรถ
-ครอบครัวเกิดความสูญเสียลูกชาย , ลูกสาว  เนื่องจากอุบัติเหตุแล้วเสียชีวิต
-เสียค่าใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาล เมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วไม่เสียชีวิต
3.ผลกระทบต่อบุคคลทั่วไป
-เกิดความรำคาญจากเสียงที่เกิดจากเครื่องยนต์ที่ดัดแปลงไปจากเดิม
-สร้างความลำบากใจให้กับผู้สัญจรไปมาบนท้องถนน
-หากเกิดอุบัติเหตุอาจทำให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องด้วยได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตไปด้วย
-สร้างความหนักใจให้เจ้าหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาความสงบของบ้านเมือง
4.ผลกระทบต่อสังคม
-ทำให้ภาพพจน์ของสังคม  หรือชุมชนนั้นๆ เสื่อมเสียชื่อเสียง
-เกิดปัญหาอีกหนึ่งปัญหา  ที่สังคมต้องเข้ามาแก้ไข
-ทำให้เกิดความวุ่นวาย
-ทำให้ภาครัฐเข้ามาจัดการเรื่องนี้  แทนที่จะเอาความคิดไปทำอย่างอื่น
-สังคมเกิดความแตกแยก
5.ผลกระทบต่อประเทศ
-ทำให้ชาวต่างชาติหรือต่างเมืองไม่กล้าที่จะเข้าไปใกล้สถานที่นั้นๆ
-ทำให้ประเทศชาติเสื่อมโทรมเนื่องจากเยาวชนรุ่นใหม่ๆ หลงทางผิด
-เกิดปัญหาของประเทศอีกปัญหาหนึ่ง
                         ปัญหาด้านอุบัติเหตุ
เด็กแว้นส่วนใหญ่จะใช้ถนนสายหลักของแต่ละจังหวัดเป็นจุดศูนย์รวมจึงทำให้เกิดอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับตนเองและผู้ใช้ถนน ที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยเพราะว่าเด็กแว้นส่วนใหญ่ยังขาดสติ ขาดการยั้งคิดและเมาสุรา สถิติข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนที่จัดทำโดยศูนย์นเรนทร กระทรวงสาธารณสุข พบว่าในแต่ละปีมีเด็กและเยาวชนที่เป็นนักเรียน นักศึกษาซึ่งอยู่ในวัยเรียนต้องจบชีวิตไปกว่า
20,000 คนจากความคึกคะนองออกซิ่งรถยามค่ำคืน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 25 ของผู้ที่ประสบอุบัติเหตุทางถนนทั้งหมด ซึ่งในจำนวนนี้มีกลุ่มที่ชื่นชอบแข่งรถจักรยานยนต์บนท้องถนน หรือที่เรียกกันว่า แก๊งเด็กแว้น รวมอยู่ด้วย บ่อยครั้งที่เด็กแว้นแข่งรถแล้วประสบอุบัติเหตุ ส่วนใหญ่เกิดจากการที่รถมอเตอร์ไซค์เกี่ยวกัน เนื่องจาก "ผู้ขี่" นิยมใช้เทคนิคการขี่แบบ "ลมดูด" เพราะเชื่อว่า การขี่รถจี้ไปด้านหลังคู่แข่งหรือรถที่อยู่บนท้องถนน รถที่ตนขี่อยู่จะไม่โต้ลมทำให้ลดแรงเสียดทาน เมื่อจี้เข้าไปใกล้มากที่สุดแล้วก็หักรถขึ้นแซงคันหน้า เชื่อว่าจะมีแรงลมช่วยส่งให้รถแรงขึ้นเบียดแซงคู่แข่ง บางคันโชคร้ายก็เกี่ยวกันล้มหรือมองไม่เห็นรถฝั่งตรงข้ามพอขึ้นแซงจึงถูกชนประสานงา บางครั้งรถคันหน้าไม่อยากให้ใช้ "ลมดูด"   ก็ขี่รถแกว่งไปมาเพื่อหนี แต่รถดันมาเสียหลักล้ม สิ่งที่มันมากที่สุดของ เด็กแว้น คือ การขี่รถหนีตำรวจตื่นเต้นกว่าขี่แข่งกันเอง เพราะต้องลุ้นว่าจะรอดหรือไม่ แต่ส่วนใหญ่จะเกิดอุบัติเหตุรถเกี่ยวกัน เสี่ยงต่อการเสียชีวิตเนื่องจากเมื่อรถล้มมีรถอีกหลายคันวิ่งตามมาพร้อมทับเราทุกเมื่อ การแก้ปัญหาในเรื่องนี้ มีการตั้งด่านของตำรวจช่วยได้แต่ไม่ถาวรเพราะเมื่อใดที่ตำรวจเลิกตั้งด่านเด็กแว้นก็จะมารวมตัวแข่งรถหรือกวนเมืองกันอีก ทำให้ปัญหานี้ยากต่อการแก้ไข
                         ปัญหาด้านอาชญากรรม
เด็กแว้นสร้างปัญหาที่ความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีการรวมกลุ่มกันเพื่อไปทะเลาะวิวาทกับอีกกลุ่มทำให้เกิดปัญหาต่างๆ บางรายถึงกับเสียชีวิตจากการวิวาท นอกเหนือจากการตั้งกลุ่มซิ่งรถมอเตอร์ไซค์ในเวลากลางคืนแล้ว ยังใช้สื่ออินเทอร์เน็ตในการพบปะซื้อขายแลกเปลี่ยนอาวุธ มีด ปืน ยาเสพติด และการค้าประเวณีของสาวสก๊อย
 พวกเขาจะใช้เว็บไซต์สังคมเครือข่ายออนไลน์ เช่น ไฮไฟว์ เฟซบุ๊ค และทวิตเตอร์ติดต่อสื่อสารกัน และใช้ร้านเกม ร้านซ่อมรถหรือร้านเหล้า เป็นสถานที่นัดหมาย เพื่อหลบเลี่ยงเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากข้อมูลเรื่อยๆ แม้ว่าทางเจ้าหน้าตำรวจจะเข้มงวดกวดขันแต่จำนวนตัวเลขการกระทำผิดของกลุ่ม เด็กแว้นก็ยังมีตัวเลขสูงขึ้น มิหนำซ้ำช่วงอายุก็น้อยลงเรื่อยๆด้วย รวมถึง หน่วยงานรัฐที่ใช้หลักการทางจิตวิทยา เช่น จับเด็กเข้าวัดฝึกสมาธิ แต่พอปล่อยตัวเด็กก็จะกลับไปเด็กก็ประพฤติตนเช่นเดิม เนื่องจากทางหน่วยงานรัฐไม่ได้แก้ไขปัญหาให้ตรงจุด
                         ปัญหาทะเลาะวิวาท
ปัญหาทะเลาะวิวาทของเด็กวัยรุ่นในสังคมไทยเริ่มรุนแรงขึ้นทุกวันซึ่งบ้างก็มีทั้งที่เป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ และไม่เป็นข่าว ซึ่งในแต่ละครั้งก็จะมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือบาดเจ็บกันทั้งสองฝ่ายทำให้สร้างความเดือดร้อนกับตัวผู้ก่อเหตุเองและผู้ปกครองของกลุ่มเด็กวัยรุ่นซึ่งที่ผ่านมาทางหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง ก็ได้มีการหาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหานี้มาโดยตลอด เพื่อลดและป้องกันทะเลาะวิวาทของกลุ่มวัยรุ่น ปัญหานี้ได้สร้างความเสียหายทั้งกับตัวเองและครอบครัวอีก ด้วย ปัจจุบันนี้ เด็กแว้นมีการประกาศสงครามกันผ่านทางอินเตอร์เน็ตในเว็บไซต์ต่างๆ โดยมีการเขียนคำท้าทาย รวมถึงใช้ถ้อยคำยั่วยุรุนแรงว่าจะ
เด็ดหัวแก๊งคู่อริ
                         สาเหตุการเกิดเหตุทะเลาะวิวาทของกลุ่มเด็กวัยรุ่นเกิดจากปัจจัยหลากหลายดังนี้ คือ
1.เกิดจากการถูกทำร้ายร่างกายมาก่อน
2.เกิดจากความต้องการโอ้อวดให้แก๊งอื่นเห็น
3.เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ ใจร้อน ขาดสติ มีความแค้นส่วนตัวกับคู่อริ และไม่ชอบหน้ากัน
4.ความคึกคะนองตามธรรมชาติของวัยรุ่น และการถูกยั่วยุ ตลอดจนวันรุ่นมีภูมิต้านทานต่อการยั่วยุต่ำ
                         แนวทางแก้ไขปัญหาของหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง
1.ขอให้ผู้ใหญ่ทางบ้าน ทางโรงเรียนและทางสังคม เป็นแบบอย่างที่ดีให้เยาวชนเห็น คือ เป็นคนกล้าแสดงออกที่เหมาะสม กับกาลเทศะ
2.สร้างทางเลือกในกิจกรรมที่น่าสนใจแก่เยาวชน  จัดกิจกรรมระหว่างสถาบันการศึกษา เช่น การพัฒนาวัด ทำบุญร่วมกัน  จัดการเรียนรู้ให้เยาวชนเห็นผลกระทบที่เป็นรูปธรรม
3.เชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเป็นวิทยากรอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับข้อกฎหมายและบทลงโทษแก่เยาวชนที่กระทำความผิด
4.หน่วยงานต่างๆของรัฐและเอกชน ควรมีส่วนร่วมในการส่งเสริมให้เด็กได้พัฒนาขึ้นเสมอ
5.นักศึกษาอาชีวศึกษาที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทต้องถูกลงโทษด้วยกฎหมายที่เด็ดขาด   เชื่อว่าน่าจะมีผลให้นักศึกษาหวาดเกรงโทษ และก่อเหตุน้อยลง
                         ปัญหาด้านยาเสพติด
เด็กแว้นไม่มีงานทำแต่จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อมากิน เที่ยวและแต่งรถ ให้รถนั้นมีความเร็วสูงเหนือคนอื่นเด็กแว้นจึงต้องหางานทำ  เด็กอายุ
15-19 ปี ยังไม่มีความรู้ที่จะหางานทำ จึงมาเป็นเด็กส่งยา ซึ่งงานนี้จะถูกชักจูงจากเพื่อนในกลุ่มนั้นๆโดยมีการโน้มน้าวจากคำพูดของเพื่อนว่างานว่า “ง่ายแค่ขับรถส่งของก็ได้เงินมาใช้” เด็กแว้นจึงเริ่มมาทำงานที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ช่วงแรกอาจเป็นแค่เด็กส่งยาอย่างเดียว แต่ต่อมาก็กลับกลายเป็นผู้เสพเสียเอง เมื่อเป็นผู้เสพ ความต้องการใช้เงินจึงมากขึ้นเรื่อยๆ และทำให้อายุเฉลี่ยของผู้ติดยาเสพติดลดลงเรื่อยๆ ด้วย
                         เหตุที่เด็กแว้นติดยาเสพติด
 1.วัยรุ่นเป็นวัยที่มีความ อยากลองความเป็นวัยรุ่นของเขาทำให้เขาอยากลองในสิ่งแปลกใหม่ ร่วมกับอีก
ปัญหาหนึ่งคือการ
ตามเพื่อนความจริงแล้วเป็นเรื่องปกติของวัยรุ่น ไม่ว่าจะในยุคใดสมัยใด ที่จะสนใจเพื่อน อยากจะลอง อยากจะเป็นอย่างคนนั้นคนนี้ หรืออยากจะทำอย่างที่เพื่อนทำ จนกระทั่งกลายมาเป็นแฟชั่น
2.สภาพแวดล้อม ก็มีส่วนเอื้อให้มีปัญหายาเสพติดขึ้น เดิมทียาเสพติดเป็นสิ่งที่จะมีในสถานที่หรือแหล่งที่มีลักษณะจำเพาะในการระบาดของยาเสพติดเท่านั้น แต่ปัจจุบันยาเสพติดได้แพร่ระบาดมาถึงในโรงเรียน แล้วเด็กๆ สามารถหายาเสพติดได้ในโรงเรียน
3.ปัญหาเรื่องของการต่อต้านผู้ใหญ่ อันนี้เป็นเรื่องตามวัยของเขาด้วย ด้วยความที่เขาอยากเป็นตัวของเขาเองทำให้เด็กบางทีรู้สึกไม่อยากเชื่อฟังสิ่งที่ผู้ใหญ่พูด บางทีก็แสดงความก้าวร้าวออกมา ถ้าคุณพ่อคุณแม่หรือคุณครูไม่เข้าใจ ก็จะมีปฏิกิริยาโต้ตอบที่รุนแรงกับเด็ก เด็กก็จะยิ่งต่อต้านมากขึ้น อะไรที่เรารู้สึกว่าไม่ดี อะไรที่เราห้ามเขา อะไรที่เราบอกว่าอย่าทำ เด็กก็จะยิ่งอยากทำ เหมือนจะประชดผู้ใหญ่ไปทางหนึ่ง
4.ปัญหาในเรื่องของภาวะทางอารมณ์ เด็กๆ หลายคนไม่มีความสุข เขารู้สึกเศร้าใจ รู้สึกทุกข์ใจ มีปัญหาต่างๆ รอบตัวโดยเฉพาะเรื่องในครอบครัว ความไม่ลงรอยกันในครอบครัว ความขัดแย้งกันของคุณพ่อคุณแม่ จึงทำให้เขาจมอยู่กับยาเสพติด


                         การป้องกัน
1.ความใกล้ชิดในครอบครัว คือภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุดในเรื่องปัญหายาเสพติด ความเอาใจใส่กับลูกไม่ได้เริ่มที่วัยรุ่น จริงๆ แล้ว เราเอาใจใส่รักใคร่กับเขามาโดยตลอด ความผูกพันอย่างนี้ ทำให้เด็กรับรู้และเข้าใจตระหนักดีว่า การหันเข้าไปหายาเสพติดทำให้ครอบครัวของเขาเกิดปัญหาขึ้น
2.การพูดคุยกับเด็กวัยรุ่นก็เป็นเรื่องจำเป็น การใช้วิธีพูดคุยกันในทำนองของการไถ่ถามถึงเรื่องราวทั่วๆ ไป เปิดโอกาสให้เขาปรึกษาหารือ พร้อมที่จะรับฟังเขา จะทำให้ความรู้สึกต่อต้านของเด็กลดลง เมื่อเขาเห็นว่าเราวางใจเขา ก็จะยินดีให้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมาว่าเวลานี้ เขาคิดอย่างไร เขารู้สึกอย่างไร คุณพ่อคุณแม่อาจลองถามไถ่ต่อไปว่า มีบ้างไหม เขาบังเอิญเข้าไปใกล้ชิดกับปัญหาเรื่องยาเสพติด เขาคิดว่าเขาจะป้องกันตัวเองอย่างไร ถ้าผู้ปกครองพูดกับลูกอย่างนี้ ก็จะได้แนวคิดว่าจริงๆ แล้วเด็กมีความพร้อมในเรื่องการดูแลตัวเองจากยาเสพติดไหม
3.การสังเกตพฤติกรรม โดยเมื่อเริ่มมีปัญหาแล้วเรารีบเข้าไปแก้ปัญหาโดยเร็ว ก็ย่อมจะดีกว่าปล่อยให้เขาติดยาเสพติดจนเรื้อรังจนแก้ไขได้ยาก
4.กลุ่มเพื่อนของเด็กก็เป็นเรื่องสำคัญ ถ้าผู้ปกครองยอมรับเพื่อนของลูก ก็สามารถติดตามได้ว่าเขาไปทำอะไรกันที่ไหนบ้าง แต่ถ้าเราปฏิเสธไม่ยอมรับเพื่อน ลูกก็จะเริ่มไม่บอกกับเราอย่างตรงไปตรงมา อาจยังแอบคบหาสมาคมกันโดยที่เราไม่รู้ ซึ่งข้อนี้จะเป็นอันตรายมากกว่า เพราะเราไม่มีทางทราบว่าเขาไปทำอะไร ที่ไหน เมื่อไรบ้าง แต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่เปิดใจรับให้เพื่อนของลูกเข้ามาในบ้าน เข้ามาพูดคุยกัน ทำกิจกรรมบางอย่างร่วมกันที่บ้าน ซึ่งดูแล้วอยู่ในขอบเขตที่เหมาะสม เช่น เขาอาจจะอยากขอมาเล่นดนตรีด้วยกันที่บ้าน คุณพ่อคุณแม่ก็ควรอนุญาตหรือยอมให้เขาทำอะไรบางอย่างร่วมกันบ้าง คุณจะได้เห็นลูกกับเพื่อนในสายตาอยู่เกือบตลอดเวลา
                         ปัญหาด้านเพศสัมพันธ์
ตั้งแต่เข้ามาอยู่ในแวดวงเด็กซิ่ง เด็กจึง เริ่มซึมซับวัฒนธรรมในกลุ่มอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าเรื่องเซ็กส์ ยาเสพติด และการพนันแข่งรถ โดยมีเด็กสาวเป็นเดิมพัน เรื่องที่คนภายนอกมองเป็นเรื่องใหญ่ แต่ในกลุ่มเด็กซิ่งแล้วถือเป็นเรื่องธรรมดา ใครที่กล้าเอาตัวเป็นเดิมพันจะได้รับการยอมรับคนในกลุ่มชนิดว่า  “เจ๋ง” ที่สุดของแก๊งเลยทีเดียว
 การเปลี่ยนคู่นอนหรือ แลกคู่นอนในกลุ่มเด็กแว้นถือเป็นเรื่องธรรมดามาก โดยเฉพาะตอนเมายา เงินที่พ่อแม่ให้ไม่พอใช้  ไหนจะเที่ยว ไหนจะแต่งรถ สุดท้ายทนแรงคะยั้นคะยอจากแฟนไม่ไหวเลยมาขายบริการ เด็กสาวจะ เริ่มทำงานตั้งแต่ 2 ทุ่ม ไปจนถึงตีสาม สนนราคาค่าตัว 600-1,000 บาท ไม่แน่นอนตายตัวขึ้นอยู่กับช่วงเวลาและลูกค้า  สำหรับเงินที่ได้ก็จะหมดไปกับค่าเช่าบ้าน ค่ากิน ค่าเที่ยว และที่สำคัญคือค่าแต่งรถของแฟนหนุ่ม ส่วนลูกค้าที่มาใช้บริการส่วน ใหญ่นั้น จากการเฝ้าสังเกตจะพบว่าเป็นกลุ่มคนมีฐานะ ขับรถหรูราคาแพงมาจอดเจรจากับเด็กสาวเหล่านี้ไม่ขาดสาย ตั้งแต่หัวค่ำไปจนเกือบรุ่งสาง เมื่อตกลงกันได้แล้วเขาและเธอก็จะขับรถตรงไปยังโรงแรม โดยมีแฟนหนุ่มขี่รถจักรยานยนต์ตามไปรอรับกลับมาขายบริการต่อ ขณะเดียวกันก็คอยดูแลความปลอดภัยหรือป้องกันการถูกเบี้ยวค่าตัว ปัญหานี้ทำให้เด็กที่ขายบริการมีโอกาสเสี่ยงต่อโรคติดต่อต่างๆ
                         การแก้ปัญหา
ภาครัฐแก้ปัญหาโดยควรให้ความรู้กับเยาวชน และ สื่อต่างๆ อย่างจริงจัง ชี้ชัดถึงปัญหา และผลกระทบที่ตามมาของการกระทำผิด ทางพ่อแม่ ครอบครัว ควรให้ความสำคัญกับบุตรหลาน เอาใจใส่ ให้คำปรึกษา อบรม สั่งสอน และเข้าใจเขา ให้ภาครัฐส่งเสริม วิธีการแสดงออกแบบถูกวิธี เป็นที่เป็นทาง   ครอบครัวควรสังเกตพฤติกรรมลูกของลูกว่า เริ่มหายหน้าหายตาในเวลากลางคืนหรือไม่ ขณะเดียวกันเด็กเริ่มพูดภาษามอเตอร์ไซค์ต่าง ๆ มากขึ้น และร้องขอให้ซื้อรถมอเตอร์ไซค์ให้ เมื่อเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้นครอบครัวไม่ควรตำหนิเด็ก แต่ต้องพูดคุยด้วยทีท่าที่พร้อมรับฟังและเสนอแนะข้อถูกผิด ประกอบกับศึกษาพฤติกรรมของลูกไปเรื่อยๆสำหรับกรณีที่พ่อแม่มีลูกเป็น “เด็กแว้น” สิ่งแรกต้องทำคือ ผู้ปกครองควรให้กำลังใจตัวเองก่อน เพราะทุกคนย่อมคาดหวังในตัวลูกสูง เมื่อผิดหวังอาจท้อแท้หรือทำร้ายจิตใจเด็กให้แย่ลง ควรคิดในแง่บวกว่า คนในครอบครัวสามารถทำให้ลูกเป็นเหมือนเดิมได้ ต่อมาจึงให้กำลังใจเด็กโดยพยายามรับฟัง และเสนอแนะการกระทำที่ถูกแล้วจึงหากิจกรรมสร้างสรรค์ทำในครอบครัว เช่น ท่องเที่ยว, เล่นกีฬา
การเปลี่ยนพฤติกรรมลูกที่เป็นเด็กแว้นอาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ต้องใช้เวลา โดยผู้ปกครองควรให้ความสำคัญในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของเราเองด้วย จึงอยาก ฝากให้สังคมหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ให้กับ เด็กเหล่านี้ได้มีพื้นที่แสดงออก อย่างสร้างสรรค์” 
                         7  ข้อปฏิบัติสำหรับป้องกันเด็กแว้น
1.ฝึกวินัยและความรับผิดชอบให้ลูกตั้งแต่เล็ก
2.สอนให้ลูกนับถือตนเองและเคารพผู้อื่น
3.อย่าให้ลูกได้อะไรง่าย ๆ เกินไป ต้องหัดให้รู้จักพึ่งตนเอง
4.สนับสนุนให้ลูกมีกิจกรรมสร้างสรรค์
5.ควบคุมอารมณ์ของพ่อแม่ โดยรักษาสัมพันธภาพที่ดีกับลูก สื่อสารทางบวก
6.หากห้ามลูกใช้มอเตอร์ไซด์ไม่ได้ ให้พ่อแม่สร้างอุปสรรคในทางสร้างสรรค์ เช่น มอบหมายให้ทำงาน
7.พ่อแม่ต้องมีกำลังใจ อย่าย่อท้อกับอุปสรรค ปัญหาต้องอาศัยเวลาในการแก้ไข
         ในทางตรงกันข้ามตำรวจเองไม่ควรจับกุมเด็กโดยใช้ความรุนแรงเกินไป เพราะเมื่อเกิดความรุนแรงสะสมบ่อยขึ้น เด็กพวกนี้จะรวมกลุ่มกันเพื่อแก้แค้นเจ้าหน้าที่ ดังนั้นควรใช้ความระมัดระวังให้มากขึ้น  ปัญหา “เด็กแว้น” เรื้อรังมานานยังคงไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังจากภาครัฐ หลายครั้งจุดประเด็นขึ้นมาตื่นตัวเป็นพัก ๆ แต่ที่น่าเศร้าคือ ผู้ใหญ่ไม่เคยตั้งโต๊ะคุยกับเด็กถึงแนวทางแก้ไขปัญหาเรื้อรังนี้ แนวคิดแก้ปัญหาเด็กแว้น ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ คือ จัดตั้งสถานดัดสันดานที่เข้มงวดกว่าสถานพินิจ ซึ่งนำรูปแบบมาจากโรงเรียนวิวัฒน์พลเมืองของทหาร เพื่อส่งเด็กแว้นไปฝึกให้หนัก เป็นการดัดนิสัยชอบแหกกฎหมาย ทั้งนี้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ในกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปสรุปสถานการณ์ และประสานกับทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดรูปแบบฝึกฝนทางจิตวิทยา การแก้ปัญหาเด็กแว้นโดย จัดตั้งสถานดัดสันดานเด็กแว้น  ควรพิจารณาอย่างรอบคอบระมัดระวังและศึกษาอย่างจริงจังก่อนดำเนินการ เพราะหากส่งเด็กเข้าไปยังโรงเรียนดัดสันดานที่มีความเข้มงวดมาก จะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะช่วยปรับพฤติกรรมเด็กแว้นได้จริง เพราะลักษณะเด็กแว้น เป็นเด็กที่ชอบท้าทายกฎหมายอยู่แล้ว หากเด็กต้องเข้าไปอยู่ภายใต้ระเบียบที่เข้มงวด อาจยิ่งเพิ่มความเครียดและกดดันให้เด็กต้องการออกจากกฎเกณฑ์มากขึ้น และเมื่อออกจากสถานกักกันแล้วอาจไม่ได้เปลี่ยนนิสัยเดิมได้การแก้ปัญหาเด็กแว้นอีกทางหนึ่ง ควรดำเนินการบนพื้นฐานความเข้าใจและดำเนินการแก้ไขในระดับจิตใจและทัศนคติของวัยรุ่น โดยมีระบบการศึกษาเกี่ยวกับปัญหานี้อย่างจริงจัง และร่วมพัฒนาแนวทางการแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างเป็นระบบเฉพาะเจาะจง ด้วยการร่วมมือกับนักจิตวิทยาที่เชี่ยวชาญ เพื่อมาให้คำแนะนำเกี่ยวกับรูปแบบการปรับพฤติกรรมเด็กที่มีพฤติกรรมรุนแรงและชอบก่อปัญหาสังคมอันจะสามารถปรับพฤติกรรมเด็กอย่างได้ผล ทั้งนี้ อาจขยายผลไปยังเด็กที่ก่อปัญหาสังคมอื่น ๆ เช่น ขโมย ติดยาเสพติด ทะเลาะวิวาท ฯลฯ นอกจากนี้ สิ่งที่ควรดำเนินการไปพร้อมกันคือ พัฒนาและจัด  กิจกรรมวัยโจ๋ ที่หลากหลาย เป็นกิจกรรมที่มีความท้าทาย มีความตื่นเต้น น่าสนใจ สนุกสนาน เป็นกิจกรรมใหม่ ๆ เป็นแนวโน้มของเด็กวัยรุ่นยุคใหม่ เพื่อดึงเด็กออกจากกิจกรรมที่ก่อปัญหาสังคม รัฐควรดำเนินการอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง เช่น การแข่งรถในสนามโดยให้มีกิจกรรมเสริมเช่น การแต่งรถ  การโดดหน้าผาแบบบันจี้จั้ม ดนตรีสมัยใหม่ที่เร้าใจวัยรุ่น การแข่งขันเล่นเกมคอมพิวเตอร์ที่ท้าทายใหม่ ๆ การแข่งเต้น การดำน้ำ การเป็นนักจัดรายการโทรทัศน์หรือวิทยุสำหรับกลุ่มวัยรุ่น การยิงปืนและธนู การเดินป่าและล่องแก่งแบบท้าท้าย แต่ต้องมีระบบระวังความปลอดภัย ร่วมมือจัดกิจกรรมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักพิมพ์ รีสอร์ท สถานีโทรทัศน์ สถานที่ราชการ การรถไฟ การไฟฟ้า ฯลฯ เพื่อสร้างความหลากหลาย ความต่อเนื่อง และประสิทธิภาพในการจัดกิจกรรม นอกจากนั้น ต้องมีศูนย์รับผิดชอบการจัดกิจกรรมวัยโจ๋ เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมที่จัดโดยหน่วยงานต่าง ๆ มีระบบการชักชวนวัยรุ่นเข้าร่วมกิจกรรม สร้างความเข้าใจแก่ครูและผู้ปกครองในการสนับสนุนเด็กเข้าร่วมกิจกรรม มีระบบประเมินผลและพัฒนากิจกรรมที่สอดคล้องกับความต้องการของวัยรุ่น ฯลฯ
        
                         สรุป
         ทุกวันนี้ การแก้ปัญหาเด็กซิ่งที่อาละวาดไปทั่วของฝ่ายบ้านเมือง โดยเฉพาะตำรวจ เป็นการวิ่งไล่ปัญหามาโดยตลอด และเรายังคงวนเวียนจับปูใส่กระด้งกันอยู่อย่างนั้น ที่สำคัญ ลึกๆลงไป ด้วยลักษณะวิธีการแบบนี้มันทำให้เด็กพวกนี้ยิ่งเหิมเกริม ท้าทาย ตั้งตัวเป็นฮีโร่ เป็นหัวโจก เป็นแก๊งค์ที่ทวีความก้าวร้าว รุนแรงมากขึ้นจนบางครั้งถึงขั้นรุมทำร้ายเจ้าหน้าที่ถึงชีวิต  วิธีแก้ปัญหาด้วยการล้อมปราบ จับกุมคุมขัง เป็นการแก้ที่ไม่ตรงจุด และไม่มีวันที่จะทำให้ปัญหานี้ลดทอนเบาบางลงได้เลย เพราะแทนที่เราจะวนเวียนอยู่กับวิธีการเดิมๆ ทำไมเราไม่คิดค้น หามาตรการป้องกันที่มีประสิทธิภาพขึ้นมา สิ่งสำคัญที่พวกเราพากันมองข้ามคือตัวต้นตอของปัญหา ซึ่งก็คือ รถจักรยานยนต์ที่เอามาแต่งเป็นรถซิ่งกันนั่นเอง และมนต์เสน่หที่เป็นจุดเร้ากระตุ้นให้เด็กเหล่านี้คลั่งไคล้หลงใหลกันเป็นบ้าเป็นหลังก็คือ เสียงที่ดังแผดออกมาจากท่อไอเสียซึ่งผ่านการตกแต่งประชันขันแข่งความดัง โดยควบคู่ไปกับการแข่งความเร็ว วิธีที่ต้องจัดการคือการตราพระราชบัญญัติควบคุมการดัดแปลง ปรับแต่งรถจักรยานยนต์ที่จะกำหนดให้รถจักรยานยนต์ทุกคันที่นำออกมาวิ่งใช้งานจะต้องเป็นรถที่เป็นมาตรฐานจากโรงงานโดยเฉพาะท่อไอเสีย ที่ต้องมีการห้ามมิให้มีการตกแต่งดัดแปลง ถอดใส้กรองเสียงที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานติดตั้งจากโรงงาน ที่ทุกแบรนด์มีมาตรฐานของตนเองที่อยู่ภายใต้ข้อกำหนดการควบคุมการผลิตอยู่แล้ว มาตรการนี้ เท่ากับเป็นการกำจัดสิ่งเร้าหรือตัวกระตุ้นที่ทำให้เด็กๆเกิดความฮึกเหิม ก้าวร้าวลงได้ และด้วยมาตรการนี้ เท่ากับเป็นการกำหนดกรอบ หรือเป็นเครื่องมือให้มีการควบคุมตรวจสอบป้องปรามที่จะสามารถกระทำได้โดยง่าย ด้วยการตรวจจับความดังท่อไอเสียโดยเครื่องวัดเดซิเบล ที่ตำรวจจะตั้งด่านตรวจจับเช่นเดียวกับการตั้งด่านตรวจจับควันดำในรถบรรทุก ส่วนขั้นตอนการลงโทษ การบังคับใช้กฎหมายหรือมาตรการการปรับ การกักยึดห้ามใช้ใดๆ ย่อมเป็นรายละเอียดทางเทคนิคที่จะต้องมีการกำหนดในรายละ เอียดโดยผู้เกี่ยวข้องต่อไป ส่วนจะได้ผลหรือไม่เพียงไรนั้น ย่อมขึ้นอยู่กับความหนักเบา ความเหมาะสม ของบทลงโทษรวมถึงธรรมาภิบาลของการบังคับใช้เป็นสำคัญ
         อย่างไรก็ตามปัญหาเด็กแว้นในสังคมไทยจะหมดไปได้อย่างจริงจังหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ในสังคมและผู้ปกครองของทุกครอบครัวช่วยกันดูแลอย่างจริงจัง ไม่เลี้ยงลูกหลานตามใจจนเกินไป  ต้องช่วยกันทุกฝ่ายทั้งครอบครัวและรัฐบาล ควรมีบทลงโทษให้เห็นอย่างชัดเจนเพื่อไม่ให้เด็กรุ่นหลังเอาเป็นแบบอย่างได้
        



อ้างอิง

เรื่องโดย : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส.    ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน
Http://www.oknation.net/blog/print.php?Id=691362
Http://vanzcivil.blogspot.com/p/blog-page_22.html



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น