วันอังคารที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ปัญหาการใช้ภาษาไทยของวัยรุ่น นาย ฉัตรชัย ใจแสน รหัสนิสิต 53241776


บทความวิชาการ
เรื่อง ปัญหาการใช้ภาษาไทยของวัยรุ่นไทย
รายวิชา ปัญหาสังคมและประเด็นสำคัญด้านการพัฒนา (830329)
โดย นาย ฉัตรชัย   ใจแสน   รหัสนิสิต  53241776
………………………………………………………………………………………………
ภาษาเป็นสิ่งแสดงภูมิปัญญาอันยอดของมนุษย์ ที่สามารถพัฒนาเสียงซึ่งเปล่งออกได้ด้วยอาการตามธรรมชาติ  ให้กลายเป็นเครื่องมือใช้สื่อความคิด  ความรู้สึก  ความต้องการของตนให้ผู้อื่นรู้และสื่อสารกันได้จนเกิดเป็น ภาษา  มนุษย์ใช้ภาษาเป็นเครื่องมือในการติดต่อ สื่อสารและทำความเข้าใจกันในหมู่ชนที่ใช้ภาษาเดียวกันได้ ภาษาทำให้มนุษย์สามารถพัฒนาชีวิต ความเป็นอยู่ความรู้ความสามารถในการหาเลี้ยงชีพ และความสามารถอื่นๆ อีกมากมาย   มนุษย์สามารถพัฒนาความรู้ ความคิด จิตใจ คุณธรรม ความเชื่อ ศิลปะ ฯลฯ จนแตกต่างจากสัตว์ทุกชนิดและเป็นผู้ครองโลกได้ก็ด้วยภาษาของมนุษย์นี่เอง ภาษาจึงเป็นส่วนสำคัญ ของความเป็นมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มชนที่เจริญก้าวหน้าจนเป็นมหาอำนาจหรือกลุ่มชนที่ล้าหลังที่สุด ต่างก็มีภาษาใช้สื่อสารกันในกลุ่มของตน และทุกภาษาจะมีความสมบรูณ์เพียงพอที่จะใช้สื่อสารกันได้ในกลุ่ม เมื่อมนุษย์ได้ติดต่อกับคนต่างกลุ่ม ติดต่อกับคนที่ใช้ภาษาต่างไปจากตน การหยิบยืมทางภาษาก็อาจเกิดขึ้นได้ในทุกกลุ่มชน การยืมจะมีมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความจำเป็นและความต้องการของคนในสังคมนั้นๆ มนุษย์เราใช้ภาษาควบคู่ไปกับการดำรงชีวิต ภาษาจึงอาจรับผลจากความเจริญหรือความเสื่อมของมนุษย์และอาจมีผลต่อ ความเจริญหรือความเสื่อมของสังคมมนุษย์ด้วย
ภาษาไทยเป็นภาษาที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีรากฐานมาจากออสโตรไทย ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับภาษาจีน มีหลายคำที่ขอยืมมาจากภาษาจีน
พ่อขุนรามคำเเหงได้ประดิษฐ์อักษรไทยขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1826 (ค.ศ.1283) มี พยัญชนะ 44 ตัว (21 เสียง), สระ 21 รูป (32 เสียง), วรรณยุกต์ 5 เสียง คือ เสียง สามัญ เอก โท ตรี จัตวา ภาษาไทยดัดแปลงลงมาจากบาลี และ สันสกฤต
ภาษาไทยเป็นทั้งวัฒนธรรม เอกลักษณ์ และความภูมิใจของคนไทย แต่ปัจจุบันคนไทยจำนวนไม่น้อยที่ใช้ภาษาไทยได้ไม่ดีพอ ไม่รู้ว่าพยัญชนะ สระ และวรรณยุกต์ในภาษาไทยมีกี่รูป กี่เสียง และยังมีคนไทยอีกจำนวนมากที่ยังพูดภาษาไทยผิดบ้าง เขียนผิดบ้าง หรือบ้างก็จับใจความผิด ฟังผิด อ่านผิด บ้างก็พูดภาษาไทยคำภาษาอังกฤษคำ จนเกิดปัญหาการสื่อสารและเข้าใจความหมายของภาษาในทางที่ผิด ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นต้นเหตุที่จะทำให้เสน่ห์ของภาษาไทยค่อย ๆ เลือนหายไป
ภาษาเป็นวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติ ภาษาเป็นสื่อใช้ติดต่อกันและทำให้วัฒนธรรมอื่นๆเจริญขึ้น แต่ละภาษามีระเบียบของตนแล้วแต่จะตกลงกันในหมู่ชนชาตินั้น ภาษาจึงเป็นศูนย์กลางยืดคนทั้งชาติ ดังข้อความ ตอนหนึ่งในพระราชนิพนธ์ในพระบาท สมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เรื่อง "ความเป็นชาติโดยแท้จริง" ว่า ภาษาเป็นเครื่องผูกพันมนุษย์ต่อมนุษย์แน่นเฟ้นนกว่าสิ่งอื่น และไม่มีสิ่งใด ที่จะทำให้คนรู้สึกเป็นพวกเดียวกันหรือแน่นอนยิ่งไปกว่าภาษาเดียวกัน รัฐบาลทั้งปวงย่อมรู้สึกในข้อนี้อยู่ดี เพราะฉะนั้น รัฐบาลใดที่ต้องปกครองคนต่างชาติต่างภาษา จึงต้องพยายามตั้งโรงเรียนและออกบัญญัติบังคับ ให้ชนต่างภาษาเรียนภาษาของผู้ปกครอง แต่ความคิดเห็นเช่นนี้ จะสำเร็จตามปรารถนาของรัฐบาลเสมอก็หามิได้ แต่ถ้ายังจัดการแปลง ภาษาไม่สำเร็จอยู่ตราบใด ก็แปลว่า ผู้พูดภาษากับผู้ปกครองนั้นยังไม่เชื่ออยู่ตราบนั้นและยังจะเรียกว่าเป็นชาติเดียวกันกับมหาชนพื้นเมืองไม่ได้ อยู่ตราบนั้น ภาษาเป็นสิ่งซึ่งฝังอยู่ในใจมนุษย์แน่นแฟ้นยิ่งกว่าสิ่งอื่น
ดังนั้น ภาษาก็เปรียบได้กับรั้วของชาติ ถ้าชนชาติใดรักษาภาษาของตนไว้ได้ดี ให้บริสุทธิ์ ก็จะได้ชื่อว่า รักษาความเป็นชาติ 
คนไทยเป็นผู้ที่โชคดีที่มีภาษาของตนเอง และมีอักษรไทย เป็นตัวอักษร ประจำชาติ อันเป็นมรดกล้ำค่าที่บรรพบุรุษได้สร้างไว้ ซึ่งเป็นเครื่องแสดงว่าไทยเราเป็นชาติที่มีวัฒนธรรมสูงส่งมาแต่โบราณกาลและยั่งยืนมาจนปัจจุบัน คนไทยผู้เป็นเจ้าของภาษา ควรภาคภูมิใจที่ชาติไทยใช้ภาษาไทย เป็นภาษาประจำชาติมากว่า 700 ปีแล้ว และจะยั่งยืนตลอดไป ถ้าทุกคนตระหนักในความสำคัญของภาษาไทย
              ในปัจจุบันนี้ปรากฏว่า ได้มีการใช้คำออกจะฟุ่มเฟือย และไม่ตรงกับความหมายอันแท้จริงอยู่เนือง ๆ ทั้งออกเสียงก็ไม่ถูกต้องตามอักขรวิธี ถ้าปล่อยให้เป็นไปดังนี้ ภาษาของเราก็มีแต่จะทรุดโทรม ชาติไทยเรามีภาษาของเราใช้เองเป็นสิ่งอันประเสริฐอยู่แล้ว เป็นมรดกอันมีค่าตกทอดมาถึงเราทุกคน จึงมีหน้าที่จะต้องรักษาไว้...พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2512
เราจะเห็นได้ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเน้นย้ำให้ประชาชนชาวไทยตระหนักถึงความสำคัญของภาษาไทยและพระราชทานแนวความคิดในการอนุรักษ์ภาษาไทยในโอกาสต่าง ๆ อยู่เสมอ ที่สำคัญยิ่งกว่านี้ คือ เป็นที่ประจักษ์ว่าพระองค์มีพระปรีชาญาณและพระอัจฉริยภาพในการใช้ภาษาไทย ทรงรอบรู้ปราดเปรื่องและเป็นแบบอย่างแก่ประชาชนในการใช้ภาษาไทยมาโดยตลอด
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการใช้ภาษาไทยของวัยรุ่น
ปัญหาการใช้ภาษาไทยได้เกิดขึ้นมาเป็นระยะเวลาอันยาวนานหลายสิบปี แต่ในยุคปัจจุบันนี้ปัญหายิ่งวิกฤติความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งมีปัจจัยหนุนนำที่สำคัญนั่นคือความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำไปอย่างรวดเร็ว เราจึงพบการใช้ภาษาไทยแบบผิด ๆ มากมายจนเกือบจะกลายเป็นความคุ้นชิน โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น ยิ่งน่าเป็นห่วงมากที่สุด เป็นกลุ่มที่นิยมใช้ภาษาที่มีวิวัฒนาการทางภาษาที่เฉพาะกลุ่ม ซึ่งเป็นภาษาที่เกือบจะไม่มีไวยากรณ์ ไม่ว่าจะจากการรับส่งข้อความสั้น (SMS) การส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) การสนทนาออนไลน์ (MSN) หรือแม้แต่การแสดงความคิดเห็นในโลกอินเทอร์เน็ต
อินเทอร์เน็ต การใช้ภาษาไทยที่เกิดจากอินเทอร์เน็ตนั้นเริ่มลุกลามมาจากโปรแกรมแช็ทรูมและเกมออนไลน์ ซึ่งดูคล้ายเป็นการสนทนากันธรรมดา แต่เมื่อได้เข้าไปสัมผัสแล้ว มิใช่เลย การสนทนาอันไม่มีขีดจำกัดของภาษาทำให้เกิดปัญหาขึ้นมากมาย ดังเช่นที่พบตามหน้าหนังสือพิมพ์ในปัจจุบัน และในขณะเดียวกันก็สร้างปัญหาให้แก่วงการภาษาไทยด้วย นั่นคือการกร่อนคำ และการสร้างคำใหม่ให้มีความหมายแปลกไปจากเดิม หรืออย่างที่เรียกว่าภาษาเด็กแนวนั่นเอง 
วัยรุ่น เป็นช่วงวัยที่มีการสื่อสารกันมากและมีรูปแบบการสื่อสารด้วยคำที่ทันสมัย มีความหมายเฉพาะสำหรับกลุ่มและช่วงวัย วัยรุ่นจึงขาดความคำนึงถึงความถูกต้องเหมาะสมของภาษาที่ใช้ให้เหมาะสม มีหลายสาเหตุที่ทำให้วัยรุ่นใช้ภาษาที่ผิดๆ โดยเฉพาะเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างมาก ทำให้มีความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวัน รวมทั้งการสื่อสาร วัยรุ่นในประเทศไทยยุคใหม่บางกลุ่มได้สร้างค่านิยมที่ผิดๆ มาใช้ คือ การใช้ภาษาไทยที่ผิดจากคำเดิม จึงทำให้ภาษาไทยของเราเปลี่ยนแปลงไป เยาวชนยุคหลังๆ จึงใช้ภาษาไทยไม่ถูกต้อง
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้จัดทำการทดสอบวัดสมรรถภาพในการใช้ภาษาไทย หัวข้อทักษะการเขียนภาษาไทยเพื่อการประกอบอาชีพ โดยนำนิสิตจากจุฬาฯจำนวน 398 คน มาทำการทดสอบ ซึ่งพบข้อผิดพลาดอยู่หลายจุด และพบว่าไม่มีผู้ใดได้ผลในเกณฑ์ดีมาก ในระดับดีมีอยู่เพียง 28 คน ข้อผิดพลาดที่พบคือ เรื่องวรรคตอนผิด ใช้คำไม่หลากหลาย ซึ่งมีผู้ผ่านเกณฑ์การทดสอบ 250 คนที่บ่งบอกว่าเป็นผู้ใช้ปฏิบัติงานได้ สื่อความคิดได้ครบถ้วน แต่ยังคงต้องเพิ่มเรื่องการเชื่อมโยงความคิด การใช้คำเชื่อม การใช้คำให้ตรงความหมาย และการสะกดคำ ขณะที่มีผู้ทดสอบไม่ผ่าน 120 คน ปัญหาที่สรุปได้คือ ยังขาดความสามารถในการเขียนที่จำเป็นต้องใช้ในการปฏิบัติงาน ควรแก้ไขการสื่อความคิดที่ไม่ชัดเจนหรือวกวน ใช้คำผิด สะกดผิด ใช้ภาษาไม่เหมาะสมกับประเภทของงานเขียน
ผู้ปกครอง พ่อแม่อยากจะให้ลูกเก่งภาษาต่างประเทศแต่ภาษาไทยก็ไม่ควรละทิ้ง หรือไม่สนใจการใช้ที่ถูกต้อง เพราะภาษาทุกภาษาย่อมมีหลักการใช้ที่เหมือนกันคือ ต้องใช้ให้ถูกกาลเทศะ สถานที่ ถูกบุคคล ต้องชัดเจนทั้งการออกเสียงและใช้ประโยค ถูกต้องตามความหมาย และบริบทของภาษา
นอกจากการเรียนรู้ภาษาไทยกลางและภาษาต่างประเทศแล้วภาษาถิ่นของไทยก็มีความสำคัญมากเช่นกัน ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา กระแสสังคมคนอาศัยในต่างจังหวัดจะสอนลูกให้พูดภาษากลางอย่างเดียว ไม่สอนภาษาถิ่น ทำให้ลูกพูดภาษาถิ่นไม่ได้ ทำให้เด็กขาดความรู้ในเรื่องนี้ และสังคมท้องถิ่นก็ขาดการสืบทอดสิ่งที่บรรพบุรุษถ่ายทอดกันมา ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เช่น ตำราที่ใช้คำท้องถิ่น ทั้งตำรับยา ชื่อต้นไม้ หรือพิธีกรรม เป็นต้น
สื่อมวลชน ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดการใช้ภาษาไทยแบบผิดๆของประชาชนเพราะ สื่อมวลชนเป็นผู้ที่ให้ข้อมูล ข่าวสารกับประชาชนทุกวัน สื่อมวลชนต้องเป็นผู้นำที่ดีที่สุดของการใช้ภาษาและต้องให้ข้อคิดอยู่เสมอว่า ภาษานั้นสะท้อนความเป็นตัวของเราเอง ถ้าใช้ภาษาดี ภาษาที่ถูกต้อง ภาษาที่นำสังคมไปในทางสร้างสรรค์ สร้างความสามัคคี สร้างความรัก สร้างความภูมิใจในชาติจะทำให้ทุกคนเห็นคล้อยตาม แต่ถ้าหากว่าสื่อมวลชนนำภาษาที่ประหลาด ภาษาที่ไม่ถูกต้องเอามาเผยแพร่บ่อยๆ คนจะคิดว่าสิ่งที่สื่อมวลขนมาเผยแพร่นั้นถูกต้อง เป็นสิ่งที่ดี มันจะทำลายภาษาไทย โดยเฉพาะการใช้ภาษาในข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์หรือโทรทัศน์ต่างๆ เป็นต้น
ปัจจัยอีกอย่างหนึ่งในการใช้ภาษาไทย ก็คือ ปัญหาการใช้ภาษาไทยของครูและนักเรียน เกิดจาก ครู เนื่องจากครู คือ ผู้ประสาทวิชา เป็นผู้ให้ความรู้แก่ศิษย์ ดังนั้นความรู้ในด้านต่างๆ เด็กๆจึงมักจะได้รับมาจากครูเป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่ครูบางคนนั้นมีความรู้แต่ไม่แตกฉาน โดยเฉพาะวิชาภาษาไทยเป็นวิชาที่มีความละเอียดอ่อน และมีส่วนประกอบแยกย่อยอย่างละเอียดลออ เมื่อครูไม่เข้าใจภาษาไทยอย่างกระจ่าง จึงทำให้นักเรียนไม่เข้าใจตามไปด้วย จนพานเกลียดภาษาไทยไปในที่สุด ซึ่งเป็นปัญหาที่ปรากฏให้เห็นอยู่มากมายในปัจจุบัน
 รูปแบบการใช้ภาษาไทยของวัยรุ่น
การใช้ภาษาเป็นเรื่องของการสื่อสาร ซึ่งผู้ส่งสารจะต้องทำให้ผู้รับสารเข้าใจความหมายของตน    ให้มากที่สุด แต่การสื่อสารที่มีรูปแบบแตกต่างกัน จะทำให้การใช้ภาษามีความแตกต่างกันไปด้วย เช่น การสื่อสารแบบเผชิญหน้าย่อมแตกต่างจากการสื่อสารแบบผ่านเครื่องมือการสื่อสาร หรือการสื่อสารด้วย สื่อสิ่งพิมพ์ ย่อมมีความแตกต่างการสื่อสารด้วยสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีทั้งภาพและเสียง
ในปัจจุบันปัญหาที่พบเป็นอย่างมากเกี่ยวกับการใช้ภาษาไทยคือการใช้ภาษาในทางวิบัติ และมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้ภาษาอยู่หลายประเภท เช่น
1. รูปแบบการพูด เป็นประเภทของภาษาวิบัติที่ใช้เวลาพูดกัน ซึ่งบางครั้งก็ปรากฏขึ้นในการเขียนด้วย แต่น้อยกว่ากลุ่มที่ใช้ในเวลาเขียน โดยการพูดมักจะพูดให้มีเสียงสั้นลง หรือยาวขึ้น หรือไม่ออกเสียงควบกล้ำเลย ประเภทนี้เรียกได้อีกอย่างว่ากลุ่มเพี้ยนเสียง
2. รูปแบบการเขียน รูปแบบของภาษาวิบัติประเภทนี้ โดยทั้งหมดจะเป็นคำพ้องเสียงที่นำมาใช้ผิดหลักของภาษา คนที่ใช้ภาษาวิบัติเวลาเขียนนั้นจะเขียนตามเสียงอ่าน เพราะไม่ต้องการอยู่ในกรอบหรือ ต้องการทำอะไรที่คิดว่าใหม่ ไม่เลียนแบบของเก่า ได้แก่
2.1 การเขียนตามเสียงพูด
2.2 การสร้างรูปการเขียนใหม่
3.รูปแบบของการเปลี่ยนแปลงเสียงอ่าน
4.กลุ่มที่เปลี่ยนแปลงความหมาย
ตัวอย่าง การใช้ภาษาโดยมีการเปลี่ยนแปลง
แปลงเสียงสั้นเสียงยาว
อะไร                      แปลงเป็น                              อาราย
ได้                           แปลงเป็น                              ด้าย
ไม่ใช่                      แปลงเป็น                              ม่ายช่าย
ไป                           แปลงเป็น                              ปาย
ใคร                         แปลงเป็น                              คราย
ทําไม                      แปลงเป็น                              ทามมาย
มาก                        แปลงเป็น                              มั่ก
ด้วย                         แปลงเป็น                              ดั่ว
สัตว์                        แปลงเป็น                              สาด
กติกา                      แปลงเป็น                              กติกู
                แปลงสระ
                คิดถึง                      แปลงเป็น                              คิดถุง
กว่า                         แปลงเป็น                              กั่ว
ไม่                           แปลงเป็น                              มะ
แล้ว                        แปลงเป็น                              แระ
เอา                          แปลงเป็น                              แอง
จะ                           แปลงเป็น                              จา,จิ
เพื่อน                     แปลงเป็น                              เพิ่ล
เปล่า                       แปลงเป็น                              ป่าว,ปะ
ไป                           แปลงเป็น                              ปาย
ทํา                           แปลงเป็น                              ทาม
ขอบคุณ                 แปลงเป็น                              ขอบคุง
เลย                          แปลงเป็น                              โรย
                แปลงคำควบกล้ำ
                จริงสิ                      แปลงเป็น                             จิงดิ
เปล่า                       แปลงเป็น                              ป่าว,ปะ
หรือเปล่า               แปลงเป็น                              อ๊ะป่าว
จ้า                            แปลงเป็น                              จร้า
ค่า                           แปลงเป็น                              คร่า
                ซ้ำตัวสะกด
                ว้าย                         แปลงเป็น                              ว๊ายยยย
                โอ๊ย                         แปลงเป็น                             โอ๊ยยยย
                ครับ                        แปลงเป็น                             ค๊าบบบบ
                รัก                           แปลงเป็น                              ร๊ากกก
ซ้ำสระ
                เอ้า                          แปลงเป็น                              เอ้าาาา
                จ้า                            แปลงเป็น                              จร้าาาา
                ค่า                           แปลงเป็น                              คร่าาาาา
เขียนแตกต่างจากเดิม
                ขอบใจ                   แปลงเป็น                              ขอบจัย
                อย่างไร                  แปลงเป็น                              ยังงัย
                ทําให้                      แปลงเป็น                              ทำหั้ย
                เธอ                         แปลงเป็น                              เทอ
                จริง                         แปลงเป็น                              จิง
เขียนรูปแบบหรือสัญลักษณ์
                เสียงหัวเราะฮ่าฮ่าฮ่า                           แปลงเป็น                              555
                ยิ้ม                                                           แปลงเป็น                              : )
                ยิ้มขยิบตา                                              แปลงเป็น                              ; )
                ทําหน้าตาเบื่อโลก                               แปลงเป็น                              -_-
การแทรกเสียง
                มึง                          แปลงเป็น                              มรึง
กู                             แปลงเป็น                             กรู
จ้า                           แปลงเป็น                             จร้า
ค่า                           แปลงเป็น                              คร่า
ค่ะ                           แปลงเป็น                             คระ
คิด                           แปลงเป็น                             คริด
สุดตีน                    แปลงเป็น                             สุดตรีน
                การกลมกลืนเสียง
แม่มึง                                     แปลงเป็น                              แม่ง
ดูซิ                                          แปลงเป็น                              ดูดิ
กระโปรง+กางเกง              แปลงเป็น                              กระเปรง
ค.วาย+แรด                           แปลงเป็น                              แคว๊ด
แฟน+ควาย                           แปลงเป็น                              แควน
โวยวาย                                  แปลงเป็น                              วีน
                การตัดเสียง
                ซุปเปอร์สตาร์                       แปลงเป็น                              ซุปตาร์
 มหาวิทยาลัย                         แปลงเป็น                              มหาลัย
                คอนเฟิร์ม                             แปลงเป็น                              เฟิร์ม
                ไม่ไหวที่จะเคลียร์               แปลงเป็น                              ไม่ไหวจะเคลียร์
                งอนตุ๊บป่อง                          แปลงเป็น                              งอนป่อง,งอนป่องๆ
                อิทธิพล                                  แปลงเป็น                              อิด
                พารานอย(paranoid)          แปลงเป็น                              นอย
                โอเค                                       แปลงเป็น                              โอ
                สตรอเบอรี่                            แปลงเป็น                              สะตอ
                แนบเนียน                             แปลงเป็น                              เนียน
                อิมพอสสิเบล                       แปลงเป็น                              อิม
                เนิบนาบ                                แปลงเป็น                              เนิบ
                ติ๊งต๊อง                                   แปลงเป็น                              ติ๊ง
                สวัสดี                                     แปลงเป็น                              หวัดดี
                การกร่อนเสียง
                ใช่ไหม                                  กร่อนเสียงเป็น                    ชิมิ
                ตาวัน                                      กร่อนเสียงเป็น                    ตะวัน
                หมากกรูด                             กร่อนเสียงเป็น                    มะกรูด
                หมากนาว                             กร่อนเสียงเป็น                    มะนาว
                แฟน                                       กร่อนเสียงเป็น                    ฟุ๊บุ
                กระล่อน                                กร่อนเสียงเป็น                    หลี
                ขี้เหร่                                      กร่อนเสียงเป็น                    เหียก
                ช่างทำได้นะ                         กร่อนเสียงเป็น                    กล้านะ
                เสียว                                       กร่อนเสียงเป็น                    เซี้ยว
อร่อย                                      กร่อนเสียงเป็น                    เอ็ดย่า
                กับ                                          กร่อนเสียงเป็น                    กะ
                แจ๋ว(คนใช้)                          กร่อนเสียงเป็น                    แจ๋ง
                ปอด                                        กร่อนเสียงเป็น                    ป๊อด
                ความหมายต่างไปจากเดิม
                ปวดตับ                                  หมายถึง                                                เครียด
                กลิ่นตุๆ                                  หมายถึง                                                เค้าลางของการทุจริต
                เกาเหลา                                 หมายถึง                                                ไม่ถูกกัน,ไม่กินเส้น
                ตู้                                             หมายถึง                                                เด็กเรียน
                สิว-สิว                                    หมายถึง                                                เรื่องขี้ผง เรื่องเล็กๆ ง่ายมาก
                ซึม                                          หมายถึง                                                พวกชอบทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่ที่แท้ตัวดี
                ป๊อด                                        หมายถึง                                                ไม่กล้า
                กิ๊บ                                          หมายถึง                                                เจ๋งมากๆ
                เบๆ                                         หมายถึง                                                ง่ายๆ หมูๆ
                ออนป้า                                  หมายถึง                                                ทำตัวแก่ประมาณคุณป้า
                เนิร์ด(Nerd)                          หมายถึง                                                เด็กเรียน
                งานเข้า                                  หมายถึง                                                ได้เรื่องหรือมีเรื่องเดือดร้อนเข้ามา
                ยาวไป                                    หมายถึง                                                เที่ยวกลางคืนจนถึงดึกดื่นถึงเช้า
                เนียน                                      หมายถึง                                                ทำได้กลมกลืน ทำเนียบเนียนดีมาก
                วีนแตก                                  หมายถึง                                                ชอบอาละวาด ชอบโวยวาย
                เฟิร์มนะ                                 หมายถึง                                                ตกลงแน่นอนตามนั้นใช่ไหม่
                โดนใจ                                   หมายถึง                                                ประทับใจ
                และยังมีคำอีกมากมายที่ถูกบัญญัติขึ้นโดยกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นวัยรุ่น จนแทบจะกลายเป็นภาษาทางการของกลุ่มวัยรุ่นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายและนับวันยิ่งขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ ซึ่งปัญหาเหล่านี้หากทุกภาคส่วนในสังคมยังคงปล่อยวางไม่เร่งรีบหาทางแก้ไข และยังคงมีการใช้บ่อยๆ ก็จะทำให้เกิดความเคยชิน อีกทั้งมีการนำไปใช้ในชีวิตประจำวันจนในที่สุดก็จะกลายเป็นเรื่องปกติ ซึ่งน่าหวั่นเกรงยิ่งนักว่าในอนาคตปัญหาวิกฤติภาษาไทยก็จะยิ่งยากเกินการเยียวยาแก้ไข
สาเหตุที่สำคัญในการเปลี่ยนแปลงของภาษาของวัยรุ่นที่ใช้กันในปัจจุบัน เนื่องจากสาเหตุหลายประการ ดังนี้
1.เมื่อการติดต่อผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์กลายเป็นช่องทางใหม่ในการสื่อสาร ภาษาในยุคนี้จึงแปลกเปลี่ยน เกิดภาษาใหม่ๆ บางคำมาจากแป้นพิมพ์ที่อยู่ติดกัน พิมพ์ง่ายกว่าจึงเกิดคำใหม่แทนคำเก่า
                2.เพื่อลดความรุนแรงในการใช้ภาษาที่ไม่สุภาพ
                3.คำศัพท์ใหม่ๆ ที่วัยรุ่นหรือคนบางกลุ่มนำมาใช้จนแพร่หลายนั้น ก็เพราะว่าคำไทยที่มีอยู่เดิมอาจจะไม่สามารถสื่อถึงลักษณะและรายละเอียดของสิ่งที่ต้องการจะสื่อสารได้มากพอ คนส่งสารก็เลยต้องพยามยามคิดคำขึ้นมาใหม่ให้สามารถบอกรายละเอียดและความรู้สึกของตนเองให้ได้มากที่สุด
                4.การเขียนคำไทยในอินเตอร์เน็ต หรือนิตยสารเพื่อความบันเทิง จะเขียนตามเสียงอ่านเพราะไม่ต้องการอยู่ในกรอบ หรือต้องการทำอะไรที่คิดว่าใหม่ ไม่เลียนแบบของเก่า
                5.ทุกสิ่งในโลกล้วนเป็นอนิจจัง วัฏจักรของชีวิตมีเกิด แก่ เจ็บ ตาย ภาษาก็มีวัฏจักรชีวิตเช่นเดียวกัน
                ภาษามีเกิด คือ มีการสร้างคำใหม่ๆ ขึ้นมา
                ภาษามีแก่ คือ คำที่คิดว่าเก๋ เท่ ในยุคหนึ่ง ก็กลับกลายเป็นคำที่ล้าสมัยในปัจจุบัน
                ภาษามีเจ็บ คือ ความบกพร่องในการใช้ภาษา ต้องอาศัยการเยียวยารักษา
                ภาษามีตาย คือ คำบางคำไม่มีการนำกลับมาใช้อีก
อย่างไร ก็ตามภาษาวิบัติยังเป็นคำพูดที่ไม่ได้รับความยินยอมให้ใช้ทั่วไปในระดับสากล หากแต่ใช้พูดกันเองในกลุ่มเพื่อนฝูงหรือในกลุ่มวัยรุ่น โดยการใช้ภาษาเหล่านี้มักจะได้รับการต่อต้านจากผู้หลักผู้ใหญ่ในสังคมอยู่เสมอ
ณ วันนี้ หากฝืนปล่อยให้กลุ่มคนที่ชอบใช้ภาษาแบบผิดๆ ด้วยค่านิยมที่ผิดๆ เพียงรู้สึกว่าการใช้ภาษาตามค่านิยมวัยรุ่นเหล่านั้นดูเป็นคำที่น่ารักและยังช่วยให้พิมพ์ง่ายขึ้น โดยที่ไม่คำนึงถึงสิ่งที่จะตามมา นั่นคือการทำลายภาษาไทยโดยทางอ้อม และที่น่ากลัวยิ่งคือวัยรุ่นบางกลุ่มได้นำคำเหล่านี้ไปใช้ในชีวิตประจำวันและได้แพร่หลายเข้าไปในสถานศึกษา ซึ่งจะเป็นหนทางที่จะนำพาความหายนะมาสู่วงการภาษาไทยซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาติที่ทุกฝ่ายไม่ควรมองข้าม
                แนวทางการจัดการกับปัญหาการใช้ภาษาไทยของวัยรุ่น
แนวทางในการจัดการกับปัญหาการใช้ภาษาไทยของวัยรุ่น อาจจะต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยสอดส่องดูแลอย่างสม่ำเสมอ แต่ถึงอย่างไรการจัดการกับปัญหานี้ก็ไม่ใช่หน้าที่ของหน่วยงานรัฐเพียงอย่างเดียว สิ่งที่จะช่วยจัดการกับปัญหาการใช้ภาษาไทยของวัยรุ่นได้ง่ายที่สุด คือ
สถาบันครอบครัว พ่อ แม่ ผู้ปกครอง นับว่าเป็นบุคคลใกล้ตัวและมีบทบาทสำคัญที่สุดที่จะช่วยในการแก้ปัญหา โดยควรเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เด็กและวัยรุ่น ควรสอนให้เด็กเขียนหนังสือให้ถูกต้อง และปลูกฝังนิสัยรักการอ่านก็จะยิ่งช่วยให้เด็กคุ้นเคยกับการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้องตั้งแต่เด็ก
 สถาบันการศึกษา ทุกสถาบันมีการเรียนการสอนภาษาไทยอยู่แล้ว ตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงอุดมศึกษา โดยสถาบันในทุกระดับนั้น ควรให้ความสำคัญกับการเรียนภาษาไทยมาก
นอกจากนี้อาจต้องต้องพิจารณาหลักสูตรโดยหันมาใช้การเรียนการสอนเดิมๆ ดูบ้าง ซึ่งจะมีวิชาเขียนไทย อ่านไทย ย่อความ หรือท่องอาขยาน เพื่อให้เด็กใช้ภาษาไทยได้ถูกต้องมากขึ้น ดังที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ก็เคยมีรับสั่งว่า การที่ให้เด็กได้ท่องอาขยาน เป็นการฝึกความจำของเด็ก ด้วยการให้ได้ท่องภาษาดีๆ การใช้ภาษาของเด็กก็จะได้รับการพัฒนาไปด้วย อย่างไรก็ตาม การที่จะฝึกฝนและสอนเด็กให้ใช้ภาษาไทยได้ถูกต้องนั้น ครูก็ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีด้วย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงได้หามาตรการในการสร้างมาตรฐานการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้องของครูด้วยเช่นกัน เช่น แนวคิดในการจัดทำเกณฑ์มาตรฐานของครูโดยราชบัณฑิตยสถาน การจัดอบรมครูภาษาไทยทั่วประเทศทุกวันเสาร์ที่สองของเดือน โดยสมาคมครูภาษาไทยฯ เป็นต้น 
สื่อ เนื่องจากเด็กและเยาวชนอยู่กับสื่อแทบตลอดเวลา มากกว่าอยู่กับพ่อแม่ และสถาบันการศึกษาด้วยซ้ำ สื่อจึงควรมีจิตสำนึกและตระหนักว่าตนเองมีความสำคัญต่อสังคม มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมต่าง ๆ ของวัยรุ่น รวมทั้งการใช้ภาษา แม้ว่าสื่อมีความจำเป็นต้องใช้คำแปลกใหม่บ้างเพื่อเป็นสีสันของข่าว และดึงดูดผู้ชมผู้ฟัง แต่ก็ต้องไม่มากจนเกินไป ดังนั้น เมื่อจะสื่อสารสิ่งใดจึงควรมีวิจารณญาณ และใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคมต่อไป
การที่จะฝึกฝนหรือสอนให้เด็กพูด อ่าน และเขียนภาษาไทยให้ถูกต้องนั้น คงจะง่ายขึ้นหากเราสามารถปลูกฝังให้พวกเขารู้สึกหวงแหนภาษาไทย ซึ่งเป็นมรดกของชาติ เพราะเรามีทั้งภาษาพูด และภาษาเขียนที่เป็นของเราเอง เพื่อที่วันข้างหน้าเขาจะเติบโตขึ้นเป็นเยาวชนไทยที่ใช้ภาษาไทยถูกต้อง มีบุคลิกภาพดี และสามารถอวดเอกลักษณ์ความเป็นไทยได้อย่างเต็มภาคภูมิ
สำหรับครู อาจารย์ก็ต้องมีการสร้างแรงจูงใจให้กับเด็กนักเรียนในห้องเรียน เพราะพฤติกรรมและการออกแบบการจัดการเรียนรู้ของครูเอง จะมีอิทธิพลต่อแรงจูงใจของนักเรียน ครูจึงสามารถพัฒนาแรงจูงใจของนักเรียนได้โดยสนับสนุนให้นักเรียนกำหนดเป้าหมายการเรียนรู้  และสร้างความเข้าใจว่า  ความสำเร็จนั้นเกิดจากความพยายาม  ซึ่งเป็นสิ่งที่นักเรียนสามารถควบคุมได้  และในการจัดกระบวนการเรียนรู้  ครูต้องพยายามเชื่อมโยงระหว่างสิ่งที่เรียนกับชีวิต  กำหนดหรือมอบหมายงานที่เหมาะสมและสอดคล้องกับศักยภาพของนักเรียน   เพื่อให้พวกเขาเกิดความมั่นใจ  และใช้การเสริมแรงทางบวกเพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจให้ได้มากที่สุด
จะเห็นได้ว่า ปัญหาการใช้ภาษาไทยของวัยรุ่นไทยมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะภาษาไทยไม่ใช่ไว้เพียงแค่การติดต่อสื่อสารเท่านั้น แต่ภาษาไทยของเราเป็นเอกลักษณ์ เป็นวัฒนธรรม ที่สืบทอดต่อกันมาเป็นเวลานาน ภาษาไทยจึงมีความสำคัญกับวัยรุ่นไทยที่จะเป็นอนาคตของชาติต่อไป รักษาภาษาไทย ที่บรรพบุรุษของเราได้สร้างไว้ให้ และให้ภาษาไทยอยู่คู่กับชาติไทยไปตลอด







เอกสารอ้างอิง


SO CUTE. (2552). “ภาษาไทยมรดกทางวัฒนธรรมของไทยที่กำลังถูกทำลาย (ออนไลน์). สืบค้นจาก : http://sochysocute.blogspot.com/2009/05/blog-post.html. [วันที่สืบค้นข้อมูล 1 ธันวาคม 2555]

นางสาว น้ำฝน  ทะกลกิจ. (2552). ปัญหาการใช้ภาษาไทยของครูและนักเรียน (ออนไลน์). สืบค้นจาก : http://www.pasasiam.com/home/index.php/pasasiam/private/523-2009-05-27-06-43-00. [วันที่สืบค้นข้อมูล 1 ธันวาคม 2555]

จุพาพร  ผิดแลงาม. (2553). การใช้ภาษาไทยที่บกพร่องของสังคมไทยปัจจุบัน (ออนไลน์). สืบค้นจาก : http://www.learners.in.th/blogs/post/411156. [วันที่สืบค้นข้อมูล 1 ธันวาคม 2555]

คำแสลง. (ออนไลน์). สืบค้นจาก : http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1923756.  [วันที่สืบค้นข้อมูล 1 ธันวาคม 2555]

ราชบัณฑิตยสถาน. พจนานุกรมคำใหม่ เล่ม ๒ ฉบับ ราชบัณฑิตยสถาน. กรุงเทพมหานคร : ยูเนียนอุลตร้าไวโอเร็ต, ๒๔๔๒

ธัญญลักษณ์ เหล็กพิมาย. (2551). แนวทางแก้ปัญหาการใช้ภาษาไทยของวัยรุ่น (ออนไลน์). สืบค้นจาก : http://www.uniserv.buu.ac.th/forum2/topic.asp?TOPIC.ID=2577. [วันที่สืบค้นข้อมูล 1 ธันวาคม 2555]

ศิริพร  ครองเคหา. (2552). ภาษาไทยกับวัยรุ่น (ออนไลน์). สืบค้นจาก : http://www.learners.in.th/blogs/posts/309303. [วันที่สืบค้นข้อมูล 1 ธันวาคม 2555]

.เฉลิม  ทองอาจ. (2555). แรงจูงใจ : จากทฤษฎีสู่แผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทย (ออนไลน์). สืบค้นจาก : http://www.thaiteachers.tv/blog/chalermlahp/2012/09/132. [วันที่สืบค้นข้อมูล 3 ธันวาคม 2555]

Kittipanan. (2555). วิกฤติภาษาไทยในวัยรุ่นปัญหาเร่งด่วนที่ต้องแก้ (ออนไลน์). สืบค้นจาก : http://www.thaihealth.or.th/healthcontent/article/29808. [วันที่สืบค้นข้อมูล 3 ธันวาคม 2555]

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น