วันอังคารที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ปัญหาและผลกระทบของการติดเทคโนโลยี (นายวิชิตพงษ์ ปัณราช 53242544)


รายงานวิชา 830329 ปัญหาสังคมและประเด็นสำคัญด้านการพัฒนา
                            บทความทางวิชาการปัญหาและผลกระทบของการติดเทคโนโลยี                                                    
นายวิชิตพงษ์  ปัณราช
                                                                                             คณะสังคมศาสตร์ สาขาพัฒนาสังคม ชั้นปีที่ 3

               ในปัจจุบันนี้การติดต่อสื่อสารและการคมนาคมมีความสะดวกทันสมัยมาก ไม่เหมือนกับอดีตที่ผ่านมาที่กว่าจะติดต่อกันได้ต้องใช้จดหมาย ซึ่งต้องใช้เวลาในการรับส่งที่นาน ไม่เหมือนกับปัจจุบันที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยติดต่อสื่อสารกันอย่างรวดเร็วทำให้สังคมในปัจจุบันมีผลต่อการดำเนินชีวิต เทคโนโลยีช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตปะจำวัน เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ไมโครเวฟ ทำให้สภาพชีวิตที่เป็นอยู่เปลี่ยนแปลงไปจากอดีต ทำให้ส่งผลกระทบต่อปัจจุบัน ทำให้สุขภาพ ร่างกายไม่แข็งแรง       ด้านพฤติกรรม คือ พฤติกรรมในการซื้อสินค้าจากเดิมที่ต้องไปซื้อสินคาด้วยตนเองที่ร้านค้า ก็เปลี่ยนเป็นสั่งซื้อสินค้าจาดอินเตอร์เน็ต , พฤติกรรมในการติดต่อสื่อสารกันจากเดิมที่อยู่ในรูปแบบของจดหมายก็ลดน้อยลง แต่จะเปลี่ยนเป็นใช้การติดต่อจาก E-mail , Facebook , Line ,  Tango , Twitter  ฯลฯ เป็นต้น  พฤติกรรมการค้นหาข้อมูลจากเดิมคนหาในห้องสมุด ก็เปลี่ยนเป็นค้นหาจากอินเตอร์เน็ตเป็นส่วนใหญ่ และเทคโนโลยียังส่งผลกระทบทางด้านสังคมอีกด้วย ทำให้เกิดรูปแบบสังคมแบบใหม่ที่มีการพบประพูดคุยในเรื่องที่มีความสนใจร่วมกันผ่านอินเตอร์เน็ต ทำให้เกิดการล่อลวงกันจนเป็นคดีต่างๆได้อีกด้วย และทำให้การเข้าถึงข้อมูลและการกระจายข้อมูลบนอินเตอร์เน็ตที่ง่ายเกินไปมีผลต่อกลุ่มคนที่ไม่ควรได้รับข้อมูลเหล่านั้น เช่น ภาพที่ไม่เหมาะสม  ปัญหาที่เกิดจากเทคโนโลยี ปัญหาสังคมที่เกิดจากเทคโนโลยี  ปัญหาเด็กติดเกมส์ ปัญหาละเมิดลิขสิทธิ์ ปัญหาอาชญากรรมต่อข้อมูล เป็นต้น
  • ความหมายของเทคโนโลยี
               เทคโนโลยี หรือ ประยุกต์วิทยา หรือ เทคนิค มีความหมายค่อนข้างกว้าง โดยทั่วไปหมายถึง การนำความรู้ทางธรรมชาติวิทยาและต่อเนื่องมาถึงวิทยาศาสตร์ มาเป็นวิธีการปฏิบัติและประยุกต์ใช้เพื่อช่วยในการทำงานหรือแก้ปัญหาต่าง ๆ อันก่อให้เกิดวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักร แม้กระทั่งองค์ความรู้นามธรรมเช่น ระบบหรือกระบวนการต่าง ๆ เพื่อให้การดำรงชีวิตของมนุษย์ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้นเทคโนโลยีก่อเกิดผลกระทบต่อสังคมและในพื้นที่ที่มีเทคโนโลยีเข้าไปเกี่ยวข้องในหลายรูปแบบ เทคโนโลยีได้ช่วยให้สังคมหลาย ๆ แห่งเกิดการพัฒนาทางเศรษฐกิจมากขึ้นซึ่งรวมทั้งเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน ในหลาย ๆ ขั้นตอนของการผลิตโดยใช้เทคโนโลยีได้ก่อให้ผลผลิตที่ไม่ต้องการ หรือเรียกว่ามลภาวะ เกิดการสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติและเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีหลาย ๆ อย่างที่ถูกนำมาใช้มีผลต่อค่านิยมและวัฒนธรรมของสังคม เมื่อมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เกิดขึ้นก็มักจะถูกตั้งคำถามทางจริยธรรม

               เมื่อกล่าวถึงเทคโนโลยี ผู้คนส่วนใหญ่อาจนึกถึงเครื่องมือเครื่องจักรเชิงกลหรืออิเล็กทรอนิกส์ที่ทันสมัย แต่ความเป็นจริงคือ เทคโนโลยีมีความสัมพันธ์กับการดำรงชีวิตของมนุษย์มาเป็นเวลานานตั้งแต่ยุคประวัติศาสตร์ เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่มนุษย์นำความรู้จากธรรมชาติวิทยามาคิดค้นและดัดแปลงธรรมชาติเพื่อแก้ปัญหาพื้นฐานในการดำรงชีวิต ในระยะแรกเทคโนโลยีที่นำมาใช้เป็นระดับพื้นฐานอาทิ การเพาะปลูก การชลประทาน การก่อสร้าง การทำเครื่องมือเครื่องใช้ การทำเครื่องปั้นดินเผา การทอผ้า เป็นต้น ปัจจัยการเพิ่มจำนวนของประชากร ข้อจำกัดด้านทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้งการพัฒนาความสัมพันธ์กับต่างประเทศ เป็นปัจจัยสำคัญในการนำและการพัฒนาเทคโนโลยีมาใช้มากขึ้น  เทคโนโลยีกับวิทยาศาสตร์มีความสัมพันธ์กันมาก เทคโนโลยีเกิดจากพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ถ่ายทอดมาจากประเทศตะวันตก ซึ่งศึกษาค้นคว้าทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ยุคปฏิวัติวิทยาศาสตร์ (คริสต์ศตวรรษที่ 16-17) ทำให้การพัฒนาเทคโนโลยีเจริญก้าวหน้าควบคู่ไปกับวิทยาศาสตร์ ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เป็นความรู้ที่เกิดจากการสังเกตปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ คือการพยายามที่อธิบายว่าทำไมจึงเกิดอย่างนั้น เช่น นักฟิสิกส์ อธิบายว่า เมื่อขดลวดตัดสนามแม่เหล็กจะได้กระแสไฟฟ้า และน้ำเกิดจากไฮโดรเจนผสมกับออกซิเจน เป็นต้น ตั้งเป็นกฎเกณฑ์และทฤษฎีเพื่อถ่ายทอดและสอนให้ผู้อื่นได้ศึกษาและพัฒนา    ล้อ เทคโนโลยีที่มีการพัฒนาตั้งแต่ยุคโบราณ ส่วนในความหมายของเทคโนโลยีเป็นการประยุกต์ นำเอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาใช้ และก่อให้เกิดประโยชน์ในทางปฏิบัติแก่มวลมนุษย์ กล่าวคือ เทคโนโลยีเป็นการนำเอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาใช้ ในการประดิษฐ์สิ่งของต่าง ๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ส่วนที่เป็นข้อแตกต่างอย่างหนึ่งของเทคโนโลยี กับวิทยาศาสตร์ คือเทคโนโลยีจะขึ้นอยู่กับปัจจัยทางเศรษฐกิจเป็นสินค้ามีการซื้อขาย ส่วนความรู้ทางวิทยาศาสตร์เป็นสมบัติส่วนรวมของชาวโลก มีการเผยแพร่โดยไม่มีการซื้อขายแต่อย่างใดกล่าวโดยสรุปคือ เทคโนโลยีสมัยใหม่เกิดขึ้นโดยมีความรู้ทางวิทยาศาสตร์เป็นฐานรองรับ บทบาทของเทคโนโลยีต่อการพัฒนาประเทศไทยได้เล็งเห็นความสำคัญของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาเป็นลำดับ เช่น การตราพระราชบัญญัติ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าในปี พ.ศ. 2514 และจัดตั้งกระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและการพลังงานแห่งชาติขึ้นในปี พ.ศ. 2522 ให้ทำหน้าที่หลักในการเผยแพร่และพัฒนาผลงานทางวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุด ปัจจุบันเทคโนโลยีมีบทบาทต่อการพัฒนาอย่างมาก กล่าวโดยสรุปดังนี้  เทคโนโลยีกับการพัฒนาอุตสาหกรรม การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการผลิต ทำให้ประสิทธิภาพในการผลิตเพิ่มขึ้น ประหยัดแรงงาน ลดต้นทุนและ รักษาสภาพแวดล้อม เทคโนโลยีที่มีบทบาทในการพัฒนาอุตสาหกรรมในประเทศไทย เช่น คอมพิวเตอร์ และอิเล็กทรอนิกส์ การสื่อสาร เทคโนโลยีชีวภาพและพันธุกรรม วิศวกรรม เทคโนโลยีเลเซอร์ การสื่อสาร การแพทย์ เทคโนโลยีพลังงาน เทคโนโลยีวัสดุศาสตร์ เช่น พลาสติก แก้ว วัสดุก่อสร้าง โลหะ เทคโนโลยีกับการพัฒนาด้านการเกษตร ใช้เทคโนโลยีในการเพิ่มผลผลิต ปรับปรุงพันธุ์ เป็นต้น เทคโนโลยีมีบทบาทในการพัฒนาอย่างมาก แต่ทั้งนี้การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาจะต้องศึกษาปัจจัยแวดล้อมหลายด้าน เช่น ทรัพยากรสิ่งแวดล้อม ความเสมอภาคในโอกาสและการแข่งขันทางเศรษฐกิจและสังคม เพื่อให้เกิดความ ผสมกลมกลืนต่อการพัฒนาประเทศชาติและส่วนอื่นๆอีกมาก ในทางเศรษฐศาสตร์ มองเทคโนโลยีว่าเป็นความรู้ของมนุษย์ ณ ปัจจุบัน ในการนำเอาทรัพยากรมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องการ (รวมถึงความรู้ว่าเราสามารถผลิตอะไรได้บ้าง) ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี จะเกิดขึ้นเมื่อความรู้ทางเทคนิคของเราเพิ่มขึ้น

               ปัจจุบันเทคโนโลยีได้เป็นที่สนใจของคนทุกมุมโลกทุกสาขา เทคโนโลยีจึงเป็นที่แพร่หลายและนำมาใช้ในการทำงานและชีวิตประจำวัน การเรียนการศึกษาในสมัยนี้จึงมีหลักสูตรที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีเข้าไปด้วย เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าที่สุดที่คนทั่วโลกให้ความสำคัญคือเทคโนโลยีสารสนเทศ เพราะปัจจุบันนี้อุปกรณ์หลายชนิดก็ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีสารสนเทศ ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ มือถือ อินเทอร์เน็ต PDA GPS ดาวเทียม และไม่นานมานี้มีการออกพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เป็นการบ่งบอกว่าสังคมให้ความสำคัญแก่คอมพิวเตอร์
  • ผลกระทบในทางลบของเทคโนโลยี
ผลกระทบด้านสุขภาพ
               ปัจจุบันมีการใช้คอมพิวเตอร์กันอย่างแพร่หลาย ทั้งเล่นเกม พิมพ์งาน เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต แต่เมื่อเทคโนโลยีมีการพัฒนาไม่หยุดนิ่ง กิจกรรมข้างต้นสามารถทำผ่านช่องทางอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็น Smart Phone Tablet แน่นอนว่า อุปกรณ์ที่ทันสมัยหากใช้ไม่ถูกต้องเหมาะสม แทนที่จะเกิดประโยชน์ ก็อาจเกิดโทษได้ทำกิจกรรมอะไรก็ตามเกี่ยวกับเทคโนโลยีจอใหญ่ จอเล็ก ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ การนั่งนาน ๆ จ้องนาน ๆ ไม่พ้นเป็นภาระดวงตา นิ้ว มือ แขน ไหล่ หลัง ก้น และขา ไม่ว่าเด็ก วัยรุ่น เยาวชน วัยกลางคน ผู้สูงอายุ หลายคนจะฝืนเพื่อความอยากรู้ อยากเห็น ด้วยความเพลิดเพลินทางอารมณ์ ต้องการรู้เหนือผู้อื่น ต้องการเป็นหนึ่งว่าข้าแน่ รู้ทุกอย่างที่คนอื่นไม่รู้ เพื่อจะเด่นในอาชีพ วิชาชีพของตนเอง จึงเป็นที่มาของโรคเงียบซึ่งเป็นภัยทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ ผลกระทบด้านร่างกาย คือ ปัญหาที่เกิดขึ้นกับดวงตา และโรคทางกล้ามเนื้อ กระดูก ซึ่งจะทำให้มีโรคประจำตัวไปจนกระทั่งแก่เฒ่า และทำให้เป็นทุกข์ตลอดชีวิต  โรคเกี่ยวกับดวงตา การจ้อง เป็นเวลานาน ถ้าระดับที่วางความสว่างไม่เหมาะสม อาจส่งผลกระทบต่อระบบของการกลอกตา ระบบกล้ามเนื้อและประสาท ซึ่งจะเกิดหลังจากใช้สายตานานผิดปกติ ทำให้เกิดอาการดวงตาล้า ดวงตาตึงเครียด ตาช้ำ ตาแดง แสบ
               พญ.ดารณี สุวพันธ์ ผอ.ศูนย์สิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงโรคทางกล้ามเนื้อ กระดูก ว่า การนั่งจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์นาน ๆ หากนั่งในท่าไม่เหมาะสม หน้าจออยู่ต่ำกว่าระดับสายตา ต้องก้ม ๆ เงย ๆ อาจทำให้กระดูกคอเสื่อม กล้ามเนื้อทำงานผิดปกติ ปวดคอ ปวดบ่า ปวดข้อมือ ปวดนิ้วมือและปวดหลังได้ ที่พบบ่อย คือ อาการปวดคอ มีอาการตึงเมื่อย เพราะอยู่ในท่าเดียวนาน ๆ พบมากในคนที่ทำงานออฟฟิศต้องอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ดังนั้นท่านั่งจึงมีความสำคัญ

               ด้าน พญ.สุธีรา ริ้วเหลือง จิตแพทย์ กลุ่มงานจิตเวช สาขาจิตเวชเด็กและวัยรุ่น รพ.พระนั่งเกล้า กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงผลกระทบด้านจิตใจว่า การใช้คอมพิวเตอร์ Smart Phone Tablet  มีทั้งด้านดีและไม่ดี ด้านดี คือ ได้เปิดความรู้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความคิดเห็น เกิดกระบวนพัฒนาได้อย่างรวดเร็วทันใจ สะดวกในการค้นคว้าข้อมูล ได้สังคมเพิ่มขึ้น ทำให้มีการพัฒนาของสมอง เกิดการแก้ไขปัญหา พัฒนากระบวนการเรียนรู้ ฝึกการแก้ไขปัญหาได้รวดเร็วและมีมาตรฐานด้านไม่ดี คือ ใช้ไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม ควบคุมไม่ได้ ตัวหมอจะห่วงเด็กหลายคนที่ยังไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ เด็กจะใช้สิ่งเหล่านี้ในการเล่นเกม ค้นหาอะไรที่ไม่เหมาะสมกับวัย เช่น เรื่อง sex ที่สามารถรับรู้หรือเห็นข้อมูลได้ทันที หรือสามารถเห็นหน้ากันได้ แสดงออกได้เต็มที่ แบบไร้ขอบเขต ผ่านทางfacebook Twitter Skype  นำไปสู่ปัญหาการมี sex ก่อนวัยอันควร และมีเรื่องยาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้องคือผู้ที่ใช้บ่อยอาจจะเก่งคอมพิวเตอร์ เก่งเรื่องเทคโนโลยี แต่อาจจะมีปัญหา เรื่องอารมณ์ ความก้าวร้าว หุนหันพลันแล่น ขาดการยับยั้งชั่งใจ เพราะไม่เคยถูกฝึก มีปัญหาติดเกม การเรียนตกต่ำ เล่นเกมมากก็มีอารมณ์ เล่นแพ้ก็หงุดหงิด ยิ่งในปัจจุบันเกมมีมากขึ้น รูปแบบค่อนข้างเหมือนจริง แม้จะมีการควบคุมแต่ระบบการควบคุมยังไม่ชัดเจน บางทีเด็กเล่นเกม ไม่ได้ต่อต้านการเล่นเกม แต่การเล่นต้องมีกฎกติกา
              นับตั้งแต่เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีบทบาทมากในชีวิตประจำวัน การใช้เทคโนโลยีเป็นไปอย่างกว้างขวาง ซึ่งหมายถึงการใช้เทคโนโลยีไปในด้านต่างๆ ซึ่งแน่นอนที่ทุกสิ่งย่อมมีทั้งคุณและโทษ ภาพยนตร์หลายเรื่องได้สะท้อนความคิดของการนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในทางลบ ผลกระทบในทางลบเหล่านี้บางอย่างเป็นเพียงการคาดคะเนเท่านั้นอาจไม่ได้เกิดขึ้นจริง แต่อย่างไรก็ตามย่อมมีโอกาสเกิดขึ้นได้

ผลกระทบทำให้เกิดอาชญากรรม

               เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นหนทางในการก่ออาชญากรรมได้ โจรผู้ร้ายอาจใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการวางแผนปล้น วางแผนโจรกรรม มีการลักลอบใช้ข้อมูลข่าวสาร มีการโจรกรรมหรือแก้ไขตัวเลขบัญชีด้วยคอมพิวเตอร์ การลอบเข้าไปแก้ไขข้อมูลอาจทำให้เกิดปัญหาหลายอย่าง เช่น การแก้ไขระดับคะแนนของนักศึกษา การแก้ไขข้อมูลในโรงพยาบาลเพื่อให้การรักษาพยาบาลคนไข้ผิด ซึ่งเป็นการทำร้ายหรือฆาตกรรมดังที่เห็นในภาพยนตร์

 ผลกระทบทำให้ความสัมพันธ์ของมนุษย์เสื่อมถอย

               การใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สื่อสาร ทำให้สามารถติดต่อสื่อสารกันได้โดยไม่ต้องเห็นตัว การใช้งานคอมพิวเตอร์หรือแม้แต่การเล่นเกมมีลักษณะการใช้งานเพียงคนเดียว ทำให้ความสัมพันธ์กับผู้อื่นลดลง ผลกระทบนี้ทำให้มีความเชื่อว่า มนุษยสัมพันธ์ของบุคคลจะน้อยลง สังคมใหม่จะเป็นสังคมที่ไม่ต้องพึ่งพากันมาก อย่างไรก็ดีได้มีงานวิจัยคัดค้านและแสดงความคิดเห็นที่ว่าเทคโนโลยีได้ช่วยให้มนุษย์มีการติดต่อสื่อสารถึงกันมากขึ้นและความสัมพันธ์ดีขึ้น
ผลกระทบทำให้เกิดความวิตกกังวล

               ผลกระทบนี้เป็นผลกระทบทางด้านจิตใจของกลุ่มบุคคลบางกลุ่มที่มีความวิตกกังวลว่า คอมพิวเตอร์อาจทำให้เกิดการว่าจ้างงานน้อยลง มีการนำเอาหุ่นยนต์มาใช้ในงานมากขึ้น มีระบบการผลิตที่อัตโนมัติมากขึ้น ทำให้ผู้ใช้แรงงานอาจตกงาน หรือหน่วยงานอาจเลิกว่าจ้างได้ โดยความจริงแล้วความคิดเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับบุคลากรบางกลุ่มเท่านั้น แต่ถ้าบุคคลนั้นมีการปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยี หรือมีการพัฒนาให้มีความรู้ความสามารถสูงขึ้นแล้วปัญหานี้จะไม่เกิดขึ้น




ผลกระทบทำให้เกิดการเสี่ยงภัยทางด้านธุรกิจ

               ธุรกิจในปัจจุบันจำเป็นต้องพึ่งพาอาศัยเทคโนโลยีสารสนเทศมากขึ้น ข้อมูลข่าวสารทั้งหมดของธุรกิจฝากไว้ในศูนย์ข้อมูล เช่น ข้อมูลลูกหนี้การค้า ข้อมูลสินค้าและบริการต่างๆ หากเกิดการสูญหายของข้อมูล อันเนื่องมาจากเหตุอุบัติภัย เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม หรือด้วยสาเหตุใดก็ตามที่ทำให้ข้อมูลหายหมด ย่อมทำให้เกิดผลกระทบต่อธุรกิจโดยตรง

ผลกระทบทำให้มีการพัฒนาอาวุธที่มีอำนาจทำลายสูง

               ประเทศที่เป็นเจ้าของเทคโนโลยี สามารถนำเทคโนโลยีมาช่วยในการสร้างอาวุธที่มีอานุภาพการทำลายสูง ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดสงครามและมีการสูญเสียมากขึ้น

ผลกระทบทำให้เกิดการแพร่วัฒนธรรมและกระจายข่าวสารที่ไม่เหมาะสมอย่างรวดเร็ว

               คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่ทำงานตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด การนำมาใช้ในทางใดจึงขึ้นอยู่กับผู้ใช้ จริยธรรมการใช้คอมพิวเตอร์เป็นเรื่องสำคัญ ดังเช่นการใช้งานอินเทอร์เน็ตมีผู้สร้างโฮมเพจหรือสร้างข้อมูลข่าวสารในเรื่องภาพที่ไม่เหมาะสม เช่น ภาพอนาจาร หรือภาพที่ทำให้ผู้อื่นเสียหาย การดำเนินการเช่นนี้ย่อมขึ้นอยู่กับจริยธรรมของผู้ดำเนินการ นอกจากนี้ยังมีการปลอมแปลงระบบจดหมาย เพื่อส่งจดหมายถึงผู้อื่นโดยมีเจตนากระจายข่าวที่เป็นเท็จ จริยธรรมการใช้งานเครือข่ายเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องปลูกฝังอย่างมาก

ผลกระทบทำให้ข้อมูลหรือโปรแกรมถูกทำลายได้ง่าย

 ด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศมีการพัฒนามาก ข้อมูลก็มีความสำคัญมากขึ้นตามไปด้วย เทคโนโลยีทำให้ข้อมูลถูกทำลายได้ง่าย อาจจะถูกทำลายด้วยไวรัสคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ประเภทหนึ่งที่สามารถทำสำเนาตัวเองเข้าไปอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ได้ สามารถแพร่ไปยังระบบคอมพิวเตอร์อื่นๆ ได้โดยผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ไวรัสคอมพิวเตอร์บางชนิดทำลายโปรแกรมหรือข้อมูลต่างๆ บางชนิดทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานช้าลง ผลกระทบต่อการทำงานของคอมพิวเตอร์นั้นขึ้นอยู่กับประเภทของไวรัสคอมพิวเตอร์และจุดประสงค์ของผู้เขียนโปรแกรมไวรัสนั้น ว่าต้องการให้โปรแกรมทำงานอย่างไร ทั้งนี้เราก็ควรจะปลูกฝังให้เยาวชนมีจิตสำนึกที่ดี ไม่ให้ทำลายข้อมูลผู้อื่น ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความเสียหายได้


ผลกระทบจริยธรรมของผู้ใช้อินเตอร์เน็ต

เนื่องจากในโลกของการติดต่อสื่อสารที่ไร้พรมแดนอาจทำให้ข้อมูลสารสนเทศที่ได้รับมีเนื้อหาทั้งเหมาะสมและไม่เหมาะสม บ่อยครั้งที่การส่งผ่านข้อมูลระหว่างกันเป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของสิทธิและเสรีภาพส่วนบุคคล ซึ่งอาจทำให้บุคคลที่สามเกิดความเสียหายได้ หรือแม้กระทั่งเนื้อหาของสารสนเทศที่ปรากฏอยู่ในเครือข่ายอินเตอร์เน็ตนั้นเป็นเรื่องยากที่จะควบคุม มิให้มีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ซึ่งในปัจจุบันกลไกของรัฐกำลังพยายามเข้าไปจัดการกับปัญหาดังกล่าวแต่ก็มีข้อจำกัดในหลายๆ ประการที่ไม่สามารถเข้าไปจัดการได้ทั้งหมด ทางออกของการแก้ไขปัญหาดูเสมือนหนึ่งว่าจะต้องหันกลับมาให้ความสำคัญกับประเด็นทางจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีเพื่อการสร้างสรรค์มากกว่าเพื่อการทำลาย ดังนั้นการปลูกฝังจิตสำนึกในเรื่องทางจริยธรรมคงจะเป็นสิ่งที่จะช่วยแก้ไขปัญหาในเรื่องดังกล่าวได้ในระยะยาวปัญหาที่พบในปัจจุบัน คือ
            1. การแพร่ระบาดของเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสมมีจำนวนมากขึ้น อาทิ เว็บไซต์ลามกอนาจาร เว็บไซต์บริการทางเพศ เว็บไซต์เกี่ยวกับการพนัน เว็บไซต์ที่เกี่ยวกับยาเสพติดเว็บไซต์ที่ขายของผิดกฎหมายหรือละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งกระบวนการตรวจสอบอย่างทั่วถึงเป็นไปได้ยาก

2. เว็บแคม (webcam) หรือ เว็บแคเมรา (web camera) เป็นกล้องที่ส่งสัญญาณภาพผ่านทางคอมพิวเตอร์สำหรับใช้งานผ่านทางอินเตอร์เน็ต โดยที่แต่ละฝ่ายสามารถเห็นภาพกันและกันขณะพูดคุย ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากในการประชุมออนไลน์ แต่ขณะเดียวกัน เว็บแคมก็เป็นสื่อที่ใช้ในการชมและถ่ายทอดกิจกรรมทางเพศ หรือแสดงลามกทางอินเทอร์เน็ตที่เป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่น

3.  อาชญากรคอมพิวเตอร์ เช่น แฮกเกอร์ (Hacker) บางคนที่พยายามหาวิธีการหรือช่องโหว่ของระบบ เพื่อแอบลักลอบเข้าสู่ระบบ เพื่อล้วงความลับหรือแอบดูข้อมูลข่าวสาร อาทิ ลักลอบใช้ข้อมูลบัตรเครดิต ลบรายชื่อผู้ใช้งานในระบบ และบางครั้งมีการทำลายข้อมูลข่าวสารหรือทำความเสียหายให้กับองค์กร

4. การใช้ภาษาไทยที่ไม่ถูกต้องใน Facebook  การใช้ Facebook ของวัยรุ่นไทยในปัจจุบัน เท่าที่พบเห็นและน่าเป็นห่วง เยาวชนไทยรุ่นใหม่ที่เริ่มหัดใช้ Facebook คือ การใช้คำ ข้อความด้วยพิมพ์ภาษาไทยที่ไม่ถูกหลักภาษา กล่าวคือ พิมพ์กันผิดๆ เช่น จุงเบย  เป็นต้น



  •  ผลกระทบด้านบวกของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ผลกระทบทางการสร้างเสริมคุณภาพชีวิต
           มีการพัฒนาใช้ระบบสื่อสารโทรคมนาคม เพื่อติดต่อสื่อสารให้สะดวกขึ้น มีการประยุกต์มาใช้กับเครื่องอำนวยความสะดวกภายในบ้าน  นำมาควบคุมอุปกรณ์ต่างๆภายในบ้าน ตัวอย่างเช่น แนวคิดบ้านอัจฉริยะ ที่มีการควบคุมการทำงานของบ้านภายใน ผ่านระบบปฏิบัติการที่จะสั่งงานอุปกรณ์ที่อยู่ในบ้านได้ เช่น 

            การใช้กล้องวงจรปิด  ปัจจุบันกล้องวงจรปิดได้ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายมาก เนื่องมาจากข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์, โทรทัศน์, อินเทอร์เน็ต ฯลฯ ซึ่งเหตุการณ์ร้ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้นส่วนถูกบันทึกโดยกล้องวงจรปิด เลยทำให้ผู้คนหันมาติดกล้องวงจรปิดกันมากขึ้น โดยกล้องวงจรปิดที่อยู่ตามอาคาร ทางเข้า หรือที่สาธารณะต่างๆ ก็เพื่อจุดประสงค์ทางด้านการรักษาความปลอดภัย ซึ่งกล้องวงจรปิดเหล่านี้ จะมีความสามารถในการเก็บภาพเป็นจำนวนมากมายหลายเฟรมต่อเนื่องกัน เพื่อมาเก็บไว้ที่เครื่องบันทึกวิดีโอ ทั้งยังสามารถดูผ่านทางอินเตอร์เน็ตได้ หากเราเดินทางไปต่างจังหวัด เพื่อเปิดดูเหตุการณ์ความเคลื่อนไหวต่างๆ ที่บ้าน

            การใช้ GPS นำทาง เครื่องรับสัญญาณ GPS รับสัญญาณ GPS ในเครื่องตัวโปรแกรม ที่ได้ติดตั้งไว้ในเครื่องรับสัญญาณจะแสดงตำแหน่งปัจจุบันบนแผนที่ที่ถูกติดตั้งไว้ภายในเครื่องแล้วเช่นกัน แผนที่สาหรับการนาทางจะเป็นแผนที่ชนิดพิเศษที่มีการกำหนดทิศทางการจราจร เช่น การ จราจรแบบชิดซ้ายหรือชิดขวา ข้อมูลการเดินรถทางเดียว สถานที่สำคัญ และข้อมูลทางภูมิศาสตร์ต่างๆ ฝังไว้ในข้อมูลแผนที่นั้นแล้ว ข้อมูลเหล่านี้ได้จากการสำรวจและตั้งค่าไว้โดยบริษัทหรือองค์กร ที่ผลิตแผนที่ฐานนั้นๆ ในแต่ละทางแยกก็จะมีการกำหนดค่าเอาไว้ด้วยเช่นกันเพื่อให้ตัวโปรแกรมสามารถเลือกการเชื่อมต่อของเส้นทางจนถึงจุดหมายที่ได้กำหนดไว้

ผลกระทบด้านสังคม
การเสริมสร้างความเสมอภาคในสังคมและการกระจายโอกาส เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยให้การกระจายข่าวสารไปได้ทั่วทุกหนแห่ง แท้แต่ในถิ่นทุรกันดาร เช่นการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (Distance Learning) เป็นนวัตกรรมทางการศึกษาที่เกิดขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 20 เพื่อสนองความต้องการของสังคมปัจจุบันซึ่งเป็นสังคมข่าวสาร หรือสังคมของการเรียนรู้ได้อย่างเหมาะสม เป็นการเปิดโอกาสทางการศึกษาไปสู่บุคคลกลุ่มต่าง ๆ อย่างทั่วถึง ทำให้เกิดการศึกษาตลอดชีวิต ที่บุคคลสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่างต่อเนื่อง 
ผลกระทบการรักษาพยาบาลผ่านเครือข่ายสื่อสาร 
เรียกอีกอย่างว่า การรักษาโรคทางไกล (Telemedicine) คือการนำเทคโนโลยีด้านไอที และเทคโนโลยีด้านการสื่อสารโทรคมนาคม (โทรศัพท์, คลื่นวิทยุ, คลื่นไมโครเวฟ , wi-fi, เครือข่ายโทรศัพท์มือถือ , 3G , 4G, ดาวเทียม เป็นต้น) มาช่วยในการตรวจวินิจฉัยโรค รักษาโรค และดูแลผู้ป่วย โดยมักจะมุ่งไปเพื่อการนำบริการด้านสาธารณสุขให้เข้าถึงพื้นที่ที่ห่างไกลและขาดแคลนผู้เชี่ยวชาญและบริการด้านสุขภาพโดยใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่แล้วและเทคโนโลยีที่กำลังเกิดขึ้น ซึ่งการทำ Telemedicine นี้ เป็นได้ตั้งแต่ง่ายๆเพียงแค่การทำตารางนัดหมายแบบออนไลน์ ไปจนถึงการผ่านตัดทางไกล ( remote surgery) เลยก็ได้
 ผลกระทบการจัดทรัพยากรธรรมชาติหลายอย่างจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ 
 การดูแลรักษาป่า จำเป็นต้องใช้ข้อมูล มีการใช้ภาพถ่ายจากดาวเทียม การติดตามข้อมูลสภาพอากาศ การพยากรณ์อากาศ การจำลองรูปแบบสภาวะสิ่งแวดล้อมเพื่อปรับปรุงแก้ไข การเก็บรวบรวมข้อมูลคุณภาพน้ำในแม่น้ำต่าง ๆ การตรวจวัดมลภาวะ ตลอดจนการใช้ระบบการตรวจวัดระยะไกลมาช่วยที่เรียกว่า โทรมาตร เป็นต้น

ผลกระทบด้านการเรียนการสอน
 ในสถานศึกษามีการนำคอมพิวเตอร์และเครื่องมือประกอบช่วยในการเรียนการสอน เช่น วิดีทัศน์ เครื่องฉายภาพ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยสอน คอมพิวเตอร์ช่วยจัดการศึกษา จัดตารางสอน คำนวณระดับคะแนน จัดชั้นเรียน ทำรายงานเพื่อให้ผู้บริหารได้ทราบถึงปัญหาและการแก้ปัญหาในโรงเรียน ปัจจุบันมีการเรียนการสอนทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศในสถานศึกษามากขึ้น
  • ปัญหาวัยรุ่นในยุค เทคโนโลยี
ปัจจุบันสังคมไทยประสบปัญหาต่างๆมากมาย ตามความเจริญของยุคสมัย ซึ่งแตกต่างกับสมัยก่อนมาก ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเศรษฐกิจ  ปัญหาสังคม  ปัญหาการเมือง   การศึกษาไม่เสมอภาคระหว่างสังคมเมืองกับสังคมต่างจังหวัด   ปัญหาวัยรุ่นในสถานศึกษา  แต่ถ้าจะว่าไปแล้วสังคมเราก็ใช่ว่าจะเลวร้ายไปทุกเรื่อง ยังมีสิ่งที่เรียกว่า  การพัฒนาที่ดี  ของสังคมเกิดขึ้นเสมอ ๆตามยุคสมัยของความเจริญ เช่น ความสะดวกสบายและเจริญก้าวหน้าในด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยี สารสนเทศ ที่ทำให้ประเทศไทยเกิดนวัตกรรมที่ทันสมัย มากกว่าสมัยก่อนมาก เช่นติดต่อสื่อสาร  การคมนาคมขนส่ง  ระบบการจัดเก็บข้อมูลที่ทันสมัย สะดวกรวดเร็ว เป็นต้น        
แต่ปัญหาหนึ่งที่เกิดขึ้นพร้อมกับความเจริญ ด้านเทคโนโลยี  หรือ ยุคดิจิตอล ที่พบเห็นกันบ่อยๆในสังคมคือ ปัญหาวัยรุ่น  ซึ่งส่วนใหญ่ ยังไม่ตระหนัก  ขาดการยับยั้งการใช้เทคโนโลยีอย่างถูกต้อง  ถึงแม้เทคโนโลยีจะมีประโยชน์มาก แต่ก็ก่อให้เกิดปัญหาตามมาเช่นกัน    ความเจริญด้าน  เทคโนโลยีมีบทบาทกับวัยรุ่นมากกว่าพ่อแม่ เมื่อเปรียบเทียบกับสมัยก่อน  ที่ส่วนใหญ่ พ่อแม่  จะมีความใกล้ชิดสนิทสนมกับลูก ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีจะไม่เจริญเท่าใดนัก ยกตัวอย่างง่ายๆ เมื่อก่อนไปเรียนที่กรุงเทพ ก็จะเขียนจดหมายหาพ่อแม่  เพราะไม่มีโทรศัพท์มือถือ พ่อแม่ก็เขียนจดหมายตอบกลับมา กว่าจะถึงก็ใช้เวลาหลายวัน เพราะไม่มีโทรศัพท์มือถือ   
แต่ในปัจจุบันแค่โทรศัพท์หากันก็รู้เรื่องแล้ว ในยุคโลกาภิวัฒน์นี้ พ่อแม่มักไม่มีเวลาให้ลูกเพราะต้องทำงานหาเงิน ถ้าเป็นพ่อแม่ที่อยู่ตามต่างจังหวัดแล้ว ก็ต้องปล่อยให้ลูกอยู่กับปู่ย่าตายาย ซึ่งปู่ย่าตายาย ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยเข้าถึงเทคโนโลยี มากนัก  วัยรุ่นส่วนใหญ่จึงได้รับอิทธิพลจาก สื่อ  จากโททัศน์ หมกมุ่นอยู่กับโทรศัพท์มือถือ รุ่นใหม่ๆ ที่พ่อแม่ ซื้อให้ เพราะต้องตามใจลูก ตามยุคสมัยที่ลูกเรียกร้อง               
วัยรุ่นเป็นวัยเป็นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ในด้านร่างกาย  จิตใจ และอารมณ์  การเปลี่ยนแปลงทางเพศ  และที่สำคัญการรับรู้รู้ข่าวสารข้อมูล ย่อมมีความเร็วและง่ายกว่าวัยอื่น เพราะเป็นวัยที่อยากรู้อยากเห็น และชอบเลียนแบบ  ถ้าขาดการชี้แนะที่ถูกต้องในด้านใดด้านหนึ่งแล้วย่อมก่อให้เกิดปัญหาตามมาได้  โดยเฉพาะในยุคเทคโนโลยี เข้ามามีบทบาทในสังคมนี้ รู้สึกว่าวัยรุ่นจะเป็นเป้าหมายหลักของ สื่อเทคโนโลยีต่างๆ  เช่น สื่อโฆษณาที่ทันสมัยที่เน้นบริโภคนิยม  ในยุคทุนนิยม   อุปกรณ์การสื่อสารที่ทันสมัย มีระบบการใช้งานที่สลับซับซ้อนและเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นในสถานศึกษา   ระบบการติดต่อสื่อสารที่รวดเร็วในคอมพิวเตอร์ที่ขาดการควบคมและสอดส่องดูแลจากพ่อแม่  หรือครู   หรือ พ่อแม่   และครูตามเทคโนโลยีไม่ทันเท่ากับลูกจึงไม่รู้ว่าตอนนี้วัยรุ่นกำลังทำอะไรอยู่  คุยกับใครอยู่เป็นเวลานานๆ  หรือ  นั่งเฝ้าหน้าจอคอมพิวเตอร์ทุกๆวันโดยไม่คุยกับใคร              
ปัญหาวัยรุ่นในสถานศึกษาที่พบบ่อยๆคือ วัยรุ่นส่วนใหญ่จะมีอุปกรณ์สื่อสารที่ทันสมัย ซึ่งจะว่าไปแล้วก็ไม่ใช่เรื่องแปลกในยุคนี้  เพราะจำเป็นและมีประโยชน์สำหรับการติดต่อสื่อสาร   แต่ปัญหาคือ วัยรุ่นมีค่านิยมที่ไม่ถูกต้อง มีพฤติกรรมชอบเลียนแบบเพื่อนในห้องในการมีโทรศัพท์ราคาแพงๆ และไม่จำเป็น  โทรศัพท์ในห้องเรียน  พ่อแม่ต้อง ตามใจลูก  เพราะกลัวลูกจะไม่มาโรงเรียน หรือไม่มีอย่างลูกคนอื่น จึงเกิดค่านิยมที่ผิดๆขึ้นมาในยุคดิจิตอลนี้  นี่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจริงๆ ในสังคมต่างๆจังหวัดที่ ครูได้ประสบพบเจออยู่ทุกครั้ง  พ่อแม่ไม่มี เทคนิควิธีการในการหาเหตุผลมาอธิบาย ถึงคุณค่าแท้ และ  คุณค่าเทียม  ของเทคโนโลยี หรือ สังคมปัจจุบันนี้ป้อน ข้อมูลให้อย่างเดียว  แต่ไม่มีวิธีการ ชำระล้างสารพิษอันเป็นผลมาจากเทคโนโลยีเลย        
วัยรุ่นส่วนมาก  ติดเกมส์  โดยเฉพาะในเมือง และต่างจังหวัดที่ ร้านอินเตอร์เน็ต  สามารถเปิดได้ถึงเที่ยงคืน ภาวะติดเกมส์ของวัยรุ่นส่วนใหญ่ที่สังเกตเห็น คือ มาจากครอบครัวฐานะปานกลาง ถึง ดีมาก หรือแม้กระทั่งเด็กที่ไม่มีเงินก็ต้องร้องให้ขอเงินพ่อแม่ หรือ ขโมยเงินพ่อแม่ไปเล่นเกมส์  หรือเด็กที่มีฐานะขึ้นมา ก็จะมีคอมพิวเตอร์ในบ้านก็จะเล่นเกมส์ ดึกดื่นเที่ยงคืนโดยไม่หลับไม่นอน ไม่มีปฎิสัมพันธ์กับพ่อแม่ เมื่อเทียบกับสมัยก่อน  เกิดภาวะ  ไม่พูดจากับใคร เพราะ  ติดเกมส์   ความเป็นจริงแล้ว  เกมส์บางอย่างก็เป็นสิ่งที่ดี ฝึกสมองและช่วยเสริมการเรียนรู้ แต่ ส่วนใหญ่แล้ว เกมส์ของวัยรุ่นที่เล่นอยู่เท่าที่สังเกตเห็นจาก จะเป็นเกมส์ ที่เน้นการแข่งขันอย่างเอาเป็นเอาตาย  เน้นความก้าวร้าว การต่อสู้ที่รุนแรง ถ้าเป็นอย่างนี้แล้ว  จิตใจ ของวัยรุ่นนั้น จะรับข้อมูลแบบใด เมื่อมาโรงเรียนความก้าวร้าวที่สะสมมาจากสื่อประเภทนี้ ก็จะแสดงออกมา เป็นความก้าวร้าวต่อเพื่อนๆ  ต่อครู หรือ  ต่อ พ่อแม่  อยากจะบอกว่าจิตสำนึกของคนที่ผลิต โปรแกรม  ที่เป็นเกมส์สำหรับวัยรุ่น นั้นอยู่ที่ไหน หรือต้องการที่จะเน้นการตลาดเจาะกลุ่มวัยรุ่นอย่างเดียว  โดยปราศจากจิตสำนึกสาธารณะ และศีลธรรมบ้าง              
ปัญหาวัยรุ่นติด อินเตอร์เน็ต มากเกินไป  โดยเฉพาะ การติดต่อสื่อสารผ่าน ช่องทางสังคมในอินเตอร์เน็ต   (social  network) หรือ การคุยกัน ที่เรียกว่า   แชท ( chat ) ความจริงแล้วการติดต่อสื่อสารแบบนี้มีประโยชน์มาก ถ้ารู้ จัก   กาลเทศะ  หรือ กาลเวลาที่เหมาะสม โดยไม่ลืมไปว่าในสังคมแห่งความเป็นจริงนั้นการติดต่อสื่อสารที่นับว่าปลอดภัยที่สุดคือ การที่คนเราต้องเห็นหน้า รู้จักกันพอสมควรก่อนที่จะเชื่อใจกัน  แต่ปัญหาที่พบสำหรับวัยรุ่นที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดคือ  การขาดวิจารณญาณ ในการติดต่อสื่อสารในโลก ไร้พรมแดน จะเห็นได้จาก วัยรุ่น รู้จัก กันทางอินเตอร์เน็ตแล้ว เชื่อทันที โดยที่พ่อแม่ไม่รู้ไม่เห็น จึงเกิดการติดต่อสื่อสารกันและ บางกรณีมีการล่อลวงกัน หรือหลอกลวงกัน เกิดธุรกรรมที่ผิดกฎหมายเกิดขึ้นในอินเตอร์เน็ตเพราะ ในโลกไร้พรมแดนนั้นเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า ใครเป็นใคร หรือเป็นคนดีหรือเลว  ทำให้วัยรุ่นส่วนใหญ่ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ตลอดเวลา  ลืมกิจกรรมในโลกแห่งความเป็นจริงกับครอบครัว  เช่นคุยกับพ่อแม่ ญาติพี่น้องน้อยลง   เกิดปฏิสัมพันธ์กันในครอบครัวน้อยลงกว่าเดิม  เชื่อคนในอินเตอร์เน็ตมากกว่าพ่อแม่  เพราะ ไปให้ความสำคัญกับกิจกรรมประเภทนี้มากเกินไป  วัยรุ่นหมดเวลาไปกับการเล่นอินเตอร์เน็ต จนทำให้เกิด การเสียเวลา และเสีย เงินไปโดยใช่เหตุ            
ปัญหาที่พบอีกอย่างหนึ่งคือ วัยรุ่นในยุคนี้บางครั้งขาดความอดทนและขาดการแสวงหาความรู้  เพราะมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยมาก จนไม่อยากอ่านหนังสือ  เพราะ  คลิก เอา เร็วกว่า หมายความว่า ค้นหาในอินเตอร์เน็ตเร็วกว่า  ห้องสมุดอาจจะเป็นแค่ ที่เก็บหนังสือเก่าๆอย่างเดียว  เพราะ วัยรุ่นส่วนใหญ่จะ มี คอมพิวเตอร์ชนิดพกพา หรือ โน้ตบุ๊ก เมื่อจะต้องคนคว้าและเขียนรายงาน  หรือหาความรู้ที่ต้องอาศัยความอดทนและความพยายาม แล้ว มักไม่ค่อยอดทน หรือชอบค้นคว้าในห้องสมุด   เพราะ ไปหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต  เกิดการคัดลอก โดยไม่บอกว่าเอามาจากไหน เพราะหาข้อมูล  มาอย่างรวดเร็ว จนไม่ได้ใช้ความคิดตัวเอง  จึงทำให้เกิดปัญหาเด็กเขียนเรียงความภาษาไทยไม่เป็น  เขียนภาษาไทยไม่ได แม้จะอยู่ระดับพออ่านออกเขียนได้ กลับเขียนภาษาไทยง่ายๆไม่ถูก  เมื่อเทียบกับสมัยก่อนที่ เด็กจะเข้าห้องสมุด  จดข้อมูลและค้นคว้าตามห้องสมุดทำให้เด็กสมัยก่อนเขียนภาษาไทยได้คล่องกว่าวัยรุ่นสมัยนี้  อุปกรณ์การเรียนก็ทันสมัย  ไม่ต้องต้องจดใส่สมุดก็มีข้อมูลได้อย่างมากมาย   เพียงแค่มีเครื่องมือเก็บข้อมูล อันทันสมัย ที่เรียกว่า HANDY DRIVE ก็สามารถเขียนรายงานได้แล้ว      
  • ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง   ทฤษฎีการเปลี่ยนแปลงทางสังคม 
ทฤษฎีซึ่งอธิบายว่า การเปลี่ยนแปลงทางสังคมนั้น เกิดจากปัจจัยทางเทคโนโลยีที่มีชื่อเสียงมาก คือ ทฤษฎีของ William F. Ogburn ทฤษฎีนี้มี ฐานคติ (Assumption) อยู่ 3 ประการ คือ ประการแรก การประดิษฐ์สิ่งใหม่ขึ้นมาจะเพิ่มความสลับซับซ้อนของวัฒนธรรม ชีวิตของมนุษย์ก็สับสนขึ้นตามเนื้อหาของวัฒนธรรมนั้น ประการที่ 2 การกระดิษฐ์สิ่งใหม่จะเป็นเหตุให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ กล่าวคือ เทคนิคใหม่ ๆ จะทำให้การผลิตเพิ่มขึ้น การวิภาคสินค้าและบริการก็กระจายออกไปในสังคมมากขึ้น ประการที่ 3 โครงสร้างทางสังคมจะมีการปรับตัวให้เป็นระบบการผลิต การวิภาค และการบริโภค การเปลี่ยนแปลงทางสังคมเป็นผลจากกระบวนการปรับตัวนี้เอง
ออกเบอร์น อธิบายว่า วัฒนธรรมนั้น มีอยู่ 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ วัฒนธรรมทางวัตถุและไม่ใช่วัตถุ การเปลี่ยนแปลงมักจะเกิดขึ้นทางวัตถุก่อน ซึ่งต่อมาทางไม่ใช่วัตถุจะต้องปรับให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงทางวัตถุ การเปลี่ยนแปลงทางวัตถุจึงเป็นเหตุให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านไม่ใช่วัตถุ และวัฒนธรรมด้านไม่ใช่วัตถุจะพยายาม ปรับตัวให้ทันกัน ด้วยเหตุนี้ การประดิษฐ์คิดค้นสิ่งใหม่อันเกิดการใช้เทคโนโลยีจึง เป็นเหตุให้สังคมเปลี่ยนแปลงไป             
เราจะเห็นได้ชัดว่า การเปลี่ยนแปลงหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตของมนุษย์เป็นผลมาจากการคิดค้นประดิษฐ์สิ่งใหม่ขึ้นมานับตั้งแต่เข็มทิศ วงล้อ เครื่องพิมพ์ เครื่องจักรกลต่าง ๆ ตลอดจนเครื่องมือสื่อสารและสภาพสิ่งต่าง ๆ ออกเบอร์นยกตัวอย่างให้เห็นว่า การประดิษฐ์เครื่องสตาร์ทรถยนต์ที่เรียกว่า Self-Starter เพียงแต่หมุนกุญแจเครื่องยนต์ก็ติด เป็นผลให้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปมาก เพราะสามารถใช้รถยนต์ได้คล่องตัวขึ้น อีกตัวอย่างหนึ่ง การสร้างลิฟต์ไฟฟ้าทำให้มีการสร้างอาคารสูงหลาย ๆ ชั้น 
ดังนั้นเทคโนโลยีมีทั้งข้อดีและข้อเสีย  อยู่ที่ว่าเราจะนำไปใช้ในทางไหน ใช้ให้เกิดประโยชน์หรือโทษ   ข้อดีของเทคโนโลยีก็มีมาก แต่หากหมกมุ่นกับมันจนเกินเหตุ อาจมีปัญหาสุขภาพตามมา โดยเฉพาะวัยรุ่น อนาคตของชาติ ถ้าใช้แค่เล่นเกม หาคู่ ดูแต่หนัง เอ็กซ์ น่าห่วงกรผมคิดว่า ควรส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีที่ถูกต้อง ให้เหมาะสมกับวันรุ่นในสมัยนี้
บรรณานุกรม







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น