นางสาวศิริลักษณ์ วรรณคีรี 53242612
คณะสังคมศาสตร์ สาขาพัฒนาสังคม
บทความทางวิชาการเรื่อง ควายไทยหายไปไหน รถไถจึงมาแทน
ควายเป็นสัตว์อยู่คู่กับสังคมไทยมานานตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษ มีความสัมพันธ์กับคนไทยอย่างแนบแน่น ควายใช้ในการทำนา ใช้ในการทำเกวียนหรือใช้ในการทำศึกสงครามเพราะเชื่องและอ่อนโยน แต่ควายที่เลี้ยงเป็นฝูงจะปราดเปรียว จับและควบคุมได้ยากกว่าควายบ้านเพราะเป็นสัตว์ที่มีสัญชาตญาณในการป้องกันตนเองสูงในภาวะที่มีภัยถึงตัว ควายจะชอบนอนแช่ปลัก โดยเฉพาะช่วงที่มีอากาศร้อน ถ้าไม่มีปลักให้แช่แต่มีน้ำมักสร้างปลักเอง โดยลงนอนเกลือกกลิ้งในบริเวณที่มีนำแฉะๆ จนเกิดเป็นแอ่ง
ควายเอเชียโดยทั่วๆ ไป เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมวงศ์ Bovidae วงศ์ย่อย Bovinae สามารถแบ่งควายออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ ควายแบบบ้านเรานั้นถ้าแยกย่อยให้ชัดเจนมีทั้งแบบที่เป็น ควายแม่น้ำ (river buffalo) ควายปลัก (swamp buffalo)
ควายแม่น้ำ (River or Riverine buffalo) บางครั้งเรียกว่า ควายแขก เพราะมีการเลี้ยงควายชนิดนี้มากในประเทศอินเดียและปากีสถาน ควายแม่น้ำจัดเป็นควายนม เนื่องจากมีขนาดเต้าใหญ่ ให้น้ำนมได้ถึง 5 ลิตรต่อวัน ลักษณะของควายแม่น้ำผิวหนังค่อนข้างมีสีดำ โครงสร้างใหญ่ เหนียงที่หน้าอกยาน
ควายปลัก (Swam buffalo) มีการเลี้ยงมากในประเทศจีนตอนใต้ ประเทศในเขตเอเชียอาคเนย์ และออสเตรเลีย ควายไทยจัดเป็นควายปลัก เลี้ยงเพื่อใช้แรงงาน และใช้เนื้อ ลักษณะของควายจะมีรูปร่างอ้วนเตี้ย ลำตัวสั้น ส่วนหัวมีเขากางยาว ปลายโค้งงอไปด้านหลัง หน้าผากเรียบรี หน้าสั้น คอยาว ตัวผู้มีหนอก (Wither) ที่เหนือหัวไหล่ หรืออาจเรียกว่า ขึ้นเปลี่ยว คือ ร่างกายส่วนปั้นหน้าเจริญเต็มที่ ตัวผู้ขนาดใหญ่กว่าตัวเมีย
ควายไทยนับว่าเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีความสำคัญต่อระดับเกษตรกรรายย่อยในชนบทอยู่ตลอดมา โดยนับว่าเป็นส่วนหนึ่งในระบบการผลิตการเกษตรที่มีการเพาะปลูกเป็นรายได้หลัก นานมาแล้วที่ควายถูก ใช้เป็นแรงงานในการเกษตร การใช้มูลเป็นปุ๋ยและเมื่อมีความจำเป็นก็สามารถขายเป็นรายได้อีกทาง หนึ่งด้วย ในขณะเดียวกันสามารถใช้ผลพลอยได้ในไร่นาซึ่งมีราคาถูกมาใช้เป็นอาหารเลี้ยงควายเพื่อเปลี่ยน ให้เป็นเนื้อสัตว์ที่มีราคาสูงได้ จะสังเกตได้ว่าควายพื้นเมืองและโคที่เลี้ยงด้วยอาหารแบบเดียวกันและอยู่ใน สภาพแวดล้อมเดียวกันนั้น โคจะมีร่างกายผอมในขณะที่ควายยังคงสภาพเดิม ซึ่งอาจเนื่องมาจากความ แตกต่างทางด้านสัณฐานวิทยา สรีระวิทยา และการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมทำให้ควายมีความ แตกต่างจากโคและเอื้อประโยชน์ในการนำเอาสารอาหารไปเปลี่ยนแปลงเป็นเนื้อได้ดีกว่าโค อย่างไรก็ตาม จากข้อเท็จจริงซึ่งเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่าการเลี้ยงควายของเกษตรกรได้ถูกละเลยจากภาครัฐ และ แม้กระทั่งเกษตรกรเองก็นิยมและหันไปเลี้ยงสัตว์พันธุ์ต่างประเทศ การเลี้ยงควายของเกษตรกรยังเป็นไป แบบพื้นบ้านไม่มีระบบการผลิตในเชิงธุรกิจ ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากการมองข้ามความสำคัญดังกล่าวซึ่งอาจจะ เกี่ยวข้องกับลักษณะทางเศรษฐกิจและสังคมของเกษตรกรเองด้วย
ควายแม่น้ำ (River or Riverine buffalo)
ควายปลัก (Swam buffalo)
ควายไทยมี 2 สี คือ ควายสีดำ และควายสีขาว ซึ่งมักเรียกควายสีขาวว่า ควายเผือก สีของควายเป็นสีผิวหนังและสีขน แต่ควายปลักมีขนน้อย สีที่แสดงจึงเป็นสีผิวหนัง
ควายเผือก
ในอดีตควายถูกนำมาใช้ในภาคการเกษตร คือ ทำไร่ ทำนา ในระยะหลังเมื่อเทคโนโลยีมีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น การทำนาก็ได้เปลี่ยนจากการที่เคยใช้ควายไถนาเป็นเครื่องจักรที่ทันสมัยมากยิ่งขึ้น รถไถเดินตาม หรือที่เรารู้จักกันว่า “ควายเหล็ก” ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำนาเพียงเพราะมีความเร็วสะดวก ควายจากที่เคยเดินอยู่ตามท้องไร่ท้องนากลับกลายเป็นสัตว์ที่ถูกคนมองข้าม จนในระยะหลังบทบาทของควายแทบจะไม่ปรากฏอยู่ในภาคการเกษตรของชาวนาอีกเลย เมื่อควายเกิดการว่างงานขึ้น จึงทำให้ควายจำนวนไม่น้อยต้องจากท้องไร่ท้อนาไปอยู่โรงฆ่าสัตว์ หรืองบางครั้งเองควายอาจเป็นอาหารอันโอชะให้แก่ชาวนาบางพื้นที่ และประเทศเพื่อนบ้านอย่าง ลาว พม่า กัมพูชา เป็นต้น ทั้งนี้เพราะว่าความนิยมบริโภคเนื้อควายของคนเริ่มมีมากขึ้น ผนวกกับควายที่มีอยู่ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ปัญหาทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้ไม่เพิ่งเกิดขึ้นกับวิถีชีวิตของควาย ปัญหาดังกล่าวได้เกิดขึ้นมาเนิ่นนานแล้วและได้ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้รวมไปถึงความทันสมัยของเกษตรกรเองด้วย เพราะมีเครื่องจักร ที่สามารถใช้งานได้ดีกว่าแรงงานควาย และรวดเร็วกว่า ควายเข้ามามีบทบาทในประเทศมากขึ้น ชาวนาจึงผันวิถีชีวิตของตนให้กับเทคโนโลยีที่ทันสมัยนี้ จึงลืมวัฒนธรรมของตนเอง ทำให้ควายมีบทบาทน้อยลงในปัจจุบัน
สำหรับประเทศไทยซึ่งรากฐานคือการเกษตร แต่การเกษตรเป็นภาคที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลน้อยกว่าภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม เกษตรกรนับวันแต่จะอ่อนแอลง โดยเฉพาะช่วงก่อนวิกฤตเศรษฐกิจ ความแตกต่างระหว่างคนรวยในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมกับคนในภาคเกษตรมีอยู่มาก แรงงานในชนบทเคลื่อนย้ายเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม มีการสร้างปัจจัยสนับสนุนการใช้เครื่องมือเครื่องจักรในการเกษตรกันมาก ประกอบกับคนส่วนใหญ่หลงความทันสมัยในวัตถุนิยมมากกว่าพิจารณาถึงความคุ้ม แรงงานวัวควายที่เคยใช้ในระบบการทำไร่ไถนาของเกษตรกรรายย่อยในชนบทถูกมองว่าล้าหลัง ครั้นเมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจกลางปี พ.ศ. 2540 แรงงานในภาคอุตสาหกรรมบางส่วนจึงถอยหลังกลับสู่ฐานรากทางการเกษตรในด้านต่าง ๆ แต่บางสิ่งบางอย่างหายไปจากวิถีชีวิตคนในชนบท ตัวอย่างที่เห็นชัดเจนคือ ควายที่เคยใช้ไถพื้นที่เตรียมดินเพาะปลูกในหลายท้องที่ได้หายไปจากระบบการทำไร่ไถนาเกือบหมด ควายที่เคยเป็นเหมือนออมสินรายปี เป็นแรงงาน ขี้ออกมาก็ยังเป็นปุ๋ยให้พืช มีลูกก็ขายเป็นรายได้อีกทางหนึ่ง ปัจจุบันน้ำมันแพง แรงงานควายจะเป็นประโยชน์มากในวิถีชีวิตคนและการเกษตรในชนบท โดยไม่ก่อให้เกิดปัญหามลพิษเหมือนเช่นเครื่องจักรที่ต้องใช้น้ำมัน แต่การที่จะนำควายกลับมาสู่วัฒนธรรมเกษตรแบบไทย ๆ เพื่อให้อยู่รอดจากวิกฤตเศรษฐกิจและภาวะน้ำมันแพง คงต้องออกแรงกันอย่างมาก เพราะชาวบ้านขายควายออกไปเกือบหมดแล้ว ควายลดจำนวนลงจากประมาณ 4ล้าน เมื่อ 10 ปีที่แล้ว เหลือเพียงประมาณ 1 ล้านตัวในปัจจุบัน ภาพที่เห็นเจนตาและน่าสลดใจ คือรถบรรทุกควายเข้าโรงเชือดคันแล้วคันเล่า นักวิชาการที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยและส่งเสริมการเลี้ยงควายเคยวิเคราะห์กันว่าเป็นเพราะควายราคาไม่ดี (ในอดีต) ไม่มีสิ่งจูงใจให้ชาวบ้านเลี้ยงควายอีกต่อไป ควายจึงถูกขายออก แต่ครั้นเมื่อควายมีราคาดีเกือบเทียบเท่าวัวตามที่เห็นในตลาดนัดวัวควายในชนบทในปัจจุบัน ชาวบ้านก็ยังคงขายควายต่อไปเพราะราคาดี โดยที่คิดว่าไม่จำเป็นต้องใช้ควายอีกต่อไป เพราะสามารถหาซื้อหรือเช่ารถไถมาใช้เตรียมดินเพาะปลูกแทน เมื่อประมาณ 8 ปีที่แล้ว เคยมีการวิเคราะห์ปัจจัยที่ทำให้ชาวบ้านบางหมู่บ้านของจังหวัดสุรินทร์เลิกใช้แรงงานควายนั้นเป็นเพราะ
1) ขาดแรงงานในครัวเรือน แรงงานวัยทำงานอพยพมาทำงานในโรงงาน เหลือแต่แรงงานผู้อาวุโสซึ่งก็ทำไร่ไถนาไม่ไหวแล้ว
2) ค่านิยมและวัตถุนิยม ถ้าบ้านใดใช้รถไถดูมีฐานะทางเศรษฐกิจ และดูทันสมัยกว่า
3) มีแหล่งสินเชื่อให้กู้เงินซื้อรถไถ ซึ่งชาวบ้านบางรายเป็นหนี้เป็นสินด้วยการกู้นี้
4) สภาพฝนแล้ง
5) ขาดแหล่งอาหารเลี้ยงควาย
6) มีระบบการจ้างรถไถเดินตาม
ปัจจัยเหล่านี้จึงสะท้อนว่าไม่ว่าควายราคาดีหรือไม่ ชาวบ้านก็ขายทั้งสิ้น ปัจจุบันชาวบ้านบางรายอยากกลับมาเลี้ยงควายอีก แต่ปัญหาคือควายมีราคาแพงเกินกว่าที่จะหาซื้อมาได้
ควายในประเทศไทยเกือบทั้งสิ้นเลี้ยงโดยชาวนาชาวไร่ ครอบครัวละ 3-8 ตัว เป็นส่วนมาก เพื่อใช้ในการทำไร่ทำนา เมื่อควายมีอายุมากหรือไม่จำเป็นต้องเลี้ยงไว้ใช้งาน หรือมีเหตุผลอย่างอื่น เช่น ฝนแล้ง น้ำท่วม อพยพโยกย้ายการทำมาหากิน บวชลูกชายหรือแต่งงานลูก ฯลฯ เกษตรกรจะจำหน่ายควายเหล่านี้ ส่วนใหญ่พ่อค้าเป็นผู้ซื้อเพื่อส่งโรงฆ่าสัตว์ต่อไป ในแต่ละปีควายที่ฆ่าโดยถูกต้องตามกฎหมายเพื่อบริโภคในประเทศมีประมาณ 3-5 แสนตัว แต่ถ้ารวมจำนวนที่ฆ่าตามกฎหมายและจำนวนที่ลักลอบฆ่าเข้าด้วยกันอาจมีจำนวนมากถึง 8 แสน ถึง 1.2 ล้านตัว เนื้อ หนัง กระดูก เขา ฯลฯ เป็นผลพลอยได้ แรงงาน (วัวควาย) เป็นผลผลิตหลัก ควายเป็นผลผลิตร่วมที่เกิดจากระบบเกษตรรวม (intergrated farming system) ของชนบทไทยที่แต่ละครอบครัวทำทั้งการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ และอื่นๆ เช่น ทำสวน เลี้ยงปลา ปลูกไม้ยืนต้น เป็นต้น อันเป็นระบบที่เกษตรกรไทยทำมาหากินกันมาช้านานตั้งแต่โบราณกาลนั่นเอง การเลี้ยงสัตว์อันได้แก่ วัว ควาย หมู เป็ด ไก่ ฯลฯ ก่อให้เกิดรายได้ประมาณร้อยละ 20-30 ของรายได้ทั้งสิ้นของครัวเรือนเกษตรกร ส่วนรายได้ส่วนใหญ่มาจากการเพาะปลูก
ควายลดจำนวนลงเพราะคนไทยกินเนื้อควายกันมาก จากสถิติของกรมปศุสัตว์ ปัจจุบันจำนวนควายมีเหลือประมาณสองล้านตัว และอาจเหลือน้อยกว่านี้มากถ้าไม่มีควายจากชายแดนลาว เขมร และไกลไปถึงเวียดนามคอยสนับสนุนให้คนไทยมีเนื้อควายบริโภคอยู่อย่างอุดมสมบูรณ์ นักวิชาการจากประเทศลาวเคยรายงานในการประชุมแห่งหนึ่งที่ประเทศเวียดนาม (การประชุมปฏิบัติการ Research Approaches and Methods for Improving Crop-Animal Systems in South East Asia) เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2541 ว่า ประเทศลาวมีรายได้สูงจากการขายวัวควายมีชีวิตให้กับประเทศเพื่อนบ้าน ผู้เข้าร่วมประชุมให้ความสนใจซักไซร้ประเด็นนี้ ปรากฏว่า ลูกค้ารายใหญ่ก็คือประเทศไทย
ย้อนกลับมาถึงเรื่องคนไทยกินเนื้อควายกันมาก และอาหารที่โปรดปรานของคนไทยบางกลุ่มคือตัวอ่อนที่อยู่ในท้องแม่ควาย ควายท้องถูกฆ่าขายเนื้อที่โรงฆ่าสัตว์เป็นจำนวนมาก ทำอย่างไรจึงจะแก้ปัญหาการกินควายแบบล้างผลาญของคนบางกลุ่ม ชอบกินแบบพิสดาร เช่น ลูกควายในท้องแม่ ทำอย่างไรคนไทยจึงจะเลิกฆ่าควายท้อง ทำอย่างไรจึงจะเพิ่มจำนวนแม่ควาย และให้แม่ควายได้มีโอกาสให้ลูกได้นาน ๆ ตราบที่แม่ควายยังมีความสมบูรณ์พันธุ์อยู่ ทำอย่างไรจึงจะให้ควายเพิ่มจำนวนขึ้นเพื่อคนในชนบทจะได้ใช้ประโยชน์ ไม่เฉพาะกินเนื้อ แต่ใช้แรงงาน และใช้ขี้ทำปุ๋ยให้แก่พืช ประหยัดเงินที่จะต้องซื้อปุ๋ยเคมีลงบ้าง ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ องค์กรใดองค์กรหนึ่งจะแก้ไขเพียงลำพังคงสำเร็จยาก ต้องร่วมมือกันหลายฝ่าย แต่ในความเป็นจริงต่างฝ่ายต่างก็ดำเนินการกันไป ถ้าหน่วยงานต่าง ๆ ประสานงานกันได้ ปัญหายาก ๆ อาจง่ายขึ้น
ภาพในอดีตของชาวนาไทยที่กำลังจูงควายเดินอยู่ตามท้องไร่ท้องนายามอาทิตย์อัศดงสลับกับสีเขียวของข้าวในท้องนา ยังคงติดตาตรึงใจของคนไทยชนบทอยู่อย่างมิรู้ลืม ด้วยเพราะความผูกพันระหว่างคนกับควายนั้นลึกซึ้งเกินกว่าจะหาคำใดมีเปรียบเทียบได้ ช่วงชีวิตที่คนกับควายเคยกินอยู่ดูแลซึ่งกันและกันนั้น เป็นวิถีชีวิตอันเป็นรากเหง้าของคนไทยมาอย่างยาวนาน มีหลักฐานทางโบราณคดีของไทยที่บ้านเชียงบอกได้ว่า ชาวนาไทยนำควายมาเลี้ยงตั้งแต่เมื่อประมาณ 5,000 กว่าปีมาแล้ว ชาวนาไทยกับควายจึงมีประวัติศาสตร์ความผูกพันที่ยาวนาน จนแทบจะกล่าวได้ว่าควายนั้นมีความสนิทสนมใกล้ชิดกับชาวนาเกินกว่าที่เรียกว่าสัตว์เลี้ยงได้ ในอดีตควายถูกนำมาใช้งานในภาคการเกษตร คือทำไร่ ทำนา อันเป็นภาพที่เราชินตาเมื่อยามที่มองออกไปตามท้องนา จนในระยะหลังเมื่อเทคโนโลยีมีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น การทำนาก็ได้เปลี่ยนจากการที่เคยใช้ควายมาไถนาเป็นเครื่องจักรที่ทันสมัยมากขึ้น รถไถเดินตาม หรือที่รู้จักกันว่า "ควายเหล็ก" ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำนาเพียงเพราะว่ามีความรวดเร็วและสะดวก ควายจากที่เคยเดินอยู่ตามท้องไร่ท้องนากลับกลายเป็นสัตว์ที่ถูกคนมองข้าม จนในระยะหลังบทบาทของควายแทบจะไม่ปรากฏอยู่ในภาคการเกษตรของชาวนาอีกเลย เมื่อควายเกิดการว่างงานขึ้นจึงทำให้ควายจำนวนไม่น้อยได้ผันชีวิตจากท้องไร่นา มาอยู่ในโรงฆ่าสัตว์
ปัจจุบันเริ่มมีความวิตกกันว่า ควายอาจจะหมดไปจากสังคมไทย สาเหตุของการลดจำนวนควายอย่างรวดเร็วทำให้เราต้องสั่งซื้อควายมาจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว พม่า เขมร เป็นต้น ทั้งนี้เพราะว่าความนิยมบริโภคเนื้อควายของคนเริ่มมีมากขึ้น ผนวกกับควายที่มีอยู่ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ปัญหาทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้ไม่เพิ่งเกิดขึ้นกับวิถีชีวิตของควาย ปัญหาดังกล่าวได้เกิดขึ้นมาเนิ่นนานแล้วและได้ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น จนทำให้กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่เห็นคุณค่าความสำคัญและต้องการที่จะอนุรักษ์บทบาทของควายไทยเอาไว้และด้วยสำนึกในบุญคุณที่ควายมีต่อคนไทยมาตั้งแต่อดีตกาลแล้วนั้น จึงได้มีการพยายามที่จะอนุรักษ์สัตว์พื้นบ้านเอาไว้ด้วยการจัดตั้งเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตควาย เช่นที่อำเภอศรีประจัน จังหวัดสุพรรณบุรีได้มีการจัดตั้ง บ้านควายไทย ขึ้นเพื่ออนุรักษ์และส่งเสริมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนชนบทที่นับวันจะสูญหายไปพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงมากขึ้นทุกขณะ
ในอดีตการใช้เครื่องทุ่นแรงและเครื่องจักรกลเกษตรมีน้อยมาก เนื่องจากเกษตรกรปลูกพืชสำหรับบริโภคภายในครัวเรือน แต่ในรอบยี่สิบปีที่ผ่านมา จากการเพาะปลูกเพื่อบริโภคเริ่มมีการเพาะปลูกเพื่อการค้า การใช้เครื่องมือทุ่นแรงและเครื่องจักรกลเกษตรจึงได้แพร่หลายและเพิ่มขึ้นทุก ๆ ปี โยเฉพาะเครื่องจักรกลเกษตรจะใช้มากขึ้น เนื่องจากมีการส่งเสริมให้มีการปลูกพืชแซมหรือปลูกหลายฤดู การปรับปรุงพันธุ์ใหม่ซึ่งมีช่วงเวลาเติบโตสั้นและต้องปลูกให้ได้ตามกำหนดเวลาที่เหมาะสมจึงจะได้ผลดีเท่าที่ควรทำให้ต้องมีการใช้เครื่องจักรกลเกษตรเพื่อใช้เตรียมดินและเก็บเกี่ยวให้ทันเวลากับการปลูกพืชรอบต่อไป นอกจากนี้การขยายพื้นที่เพาะปลูกมากขึ้นทำให้ต้องใช้รถไถนาช่วยเตรียมดินให้ทันเวลา อีกประการหนึ่ง การกระจายการปลูกพืชและพืชใหม่ๆ จำเป็นต้องใช้เครื่องจักรกลเกษตรเข้าช่วย เพราะเกษตรกรอาจจะไม่มีความเข้าใจและความชำนาญในการปลูกพืชใหม่ เช่น ถ้าใช้เครื่องปลูกพืชและเครื่องใส่ปุ๋ย ก็จะช่วยให้สามารถปลูกได้แนวตรงและประหยัดการใช้ปุ๋ย นอกจากนี้ยังยังช่วยให้ง่ายต่อการกำจัดวัชพืช ในปัจจุบันเครื่องจักรกลที่นิยมใช้กันมากได้แก่เครื่องเตรียมดิน เช่น รถไถเดินตาม เป็นที่นิยมมากที่สุดเพราะราคาถูก ผลิตได้ภายในประเทศขนาดเล็กเหมาะแก่การในประเทศไทยและง่ายต่อการใช้งานในไร่นา
ปัจจุบันควายเหล็กยึดครองพื้นที่การทำนาแทนควายด้วยอานุภาพของเครื่องจักรกลที่ทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยและมีประโยชน์สารพัดอย่างที่ควายไทยเคยทำได้ จะขาดก็เพียงลมหายใจและความซื่อสัตย์จงรักภักดีเท่านั้น ที่ควายเหล็กไม่สามารถทดแทนหรือเยียวยาความผูกพันทางใจของคนที่มีกับควายได้ ถึงแม้จะมีต้นทุนสูง ชาวนาก็พึงพอใจที่จะใช้ควายเหล็กในการไถนา เพราะควายเหล็กไม่สามารถล้มตายได้ มีเพียงแต่ใช้น้ำมัน หากน้ำมันหมดชาวนาก็ซื้อมาเติม เพียงเท่านี้ควายเหล็กก็กลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม หากเครื่องยนต์มีการชำรุด ชาวนาก็ซ่อมได้ไม่เหมือนควายไทยที่ตายแล้วไม่สามารถฟื้นคืนชีพได้ ควายเหล็กยังสามารถปรับเปลี่ยนสีได้ตามใจชอบโดยที่ควายไทยไม่สามารถเปลี่ยนสีได้ โลกในปัจจุบันการเกษตรเจริญก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วจนทำ ให้การดำรงชีวิตของเกษตรกรเปลี่ยนแปลงไป งานหลายประเภทที่เคยอาศัยแรงงานคนและสัตว์ในอดีต บัดนี้ได้ถูกแทนที่โดยเครื่องจักรกลเพื่อช่วยผ่อนแรงให้ทำ งานได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้นซึ่งอาจจะเป็นผลทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่ง เกษตรกรยุคนี้จึงหันมาให้ความสนใจต่อวัสดุ และอุปกรณ์การเกษตรต่างๆ อย่างมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถไถเดินตาม หรือควายเหล็ก รถไถเดินตามนับได้ว่าเป็นเครื่องมือทุ่นแรงที่สำคัญที่สุดชนิดหนึ่ง สำ หรับการเกษตรแผนใหม่ เพราะสามารถทำ งานได้อย่างรวดเร็วและสะดวกในทุกสภาพพื้นที่ นอกจากจะใช้เตรียมดินปลูกพืชแล้ว รถไถเดินตามยังสามารถใช้นวดธัญพืชโดยการยํ่า ลากจูงรถพ่วงหรือเครื่องจักรกลเกษตรอื่น ๆ ส่วนเครื่องยนต์ซึ่งติดมากับรถไถเดินตามนั้นก็ยังสามารถใช้ฉุดเครื่องสูบนํ้าหรือเครื่องสีข้าวได้ด้วย จึงนับได้ว่ารถไถเดินตามนั้นมีประโยชน์มากมาย รถไถเดินตามที่ใช้ในบ้านเราส่วนใหญ่จะผลิตในประเทศไทย ซึ่งส่วนมากแล้วจะมีโครงสร้างการทำงานแบบง่ายๆ ซึ่งก็มีประสิทธิภาพเหมาะสมกับสภาพพื้นที่และลักษณะของงานตามสมควร รถไถเดินตามที่สั่งมาจากต่างประเทศก็มีใช้ในประเทศไทยเหมือนกันแต่ราคาแพ่งกว่าที่ผลิตในบ้านเรามาก เกษตรกรจะใช้รถไถเดินตามเป็นต้นกำลังในการไถเตรียมดินเสียเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนั้นแล้วรถไถเดินตามยังสามารถนำไปใช้เป็นต้นกำลังในการทำงานอื่นๆ อีกมาก เนื่องจากมีความรวดเร็ว ประหยัดเวลา ช่วยเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร ทำเกษตรกรทำการปลูกได้อย่างเต็มที่ทุกฤดูกาล และใช้งานได้อย่างหลากหลาย นอกจากนี้แล้วยังช่วยให้เกษตรกรยังสามารถทำงานได้ทันช่วงฤดูกาล และที่สำคัญรถไถเดินตามยังสามารถนำไปดัดแปลงใช่ประโยชน์ใช้สอยในรูปแบบอื่น ๆ เช่นใช้รถไถเดินตามในการสูบน้ำบาดาล ใช่รถไถเดินตามติดตั้งหัวเกี่ยวข่าวจานบิน ใช้เสริมพ่วงรถไถเดินตามเป็นรถนั่งขับ ใช้เป็นเครื่องคัดแยกเมล็ดพันธ์ข้าวด้วยสนามไฟฟ้าและใช้เป็นเครื่องนวดข้าวขนาดเล็กตลอดจนใช้บรรทุกสิ่งของทางการเกษตร ซึ้งเกษตรไทยนิยมใช้ และดัดแปลงเพื่ออำนวยความประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ซึ้งทำให้รถไถเดินตามเป็นอีกปัจจัยหนึ่งของเกษตรกรไทย ในการนำมาใช้ในกิจกรรมทางด้านการเกษตรในยุคปัจจุบัน
การไถนาโดยใช้รถไถเล็กเดินตาม
การไถนาโดยใช้รถไถเล็กแบบนั่ง
ทั้งนี้ควายเหล็กอาจให้ประโยชน์ได้มากกว่าควายไทยในการใช้แรงงาน เนื่องจากควายเหล็กที่เกษตรกรเลือกใช้นั้นมีความทนทานต่อสภาพแวดล้อม มีความรวดเร็วทันใจเกษตรกร แต่ควายไทยเองก็เป็นสัตว์ที่อยู่คู่กับคนไทยมานาน ควายถือได้ว่าเป็น “สันหลัง” ของชาติไทยเราเลยก็ว่าได้ ในสมัยก่อนมีพิธีการไหว้พระแม่โพสพแล้วต้องนำควายที่เราใช้งานหนักมาขอขมาลาโทษ แต่ในสมัยนี้ควายไทยไม่ได้ใช้ไถนา ชาวนาจึงไม่มีการทำพิธีดังกล่าว หรือพิธีดังกล่าวใกล้จะสูญหายไปจากประเทศไทยแล้วก็เป็นได้ เพราะเกษตรกรไม่ได้เลี้ยงควายเพื่อใช้เป็นแรงงานในการไถนา แต่เกษตรกรเลี้ยงควายเพื่อส่งโรงงานฆ่าสัตว์เท่านั้น จึงทำให้ควายใกล้สูญพันธุ์และพิธีกรรมต่าง ๆ ก็ใกล้สูญหายไปจากชาวนาอีกด้วย รถไถเดินตามหรือควายเหล็กจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่เกษตรกรไทย นำมาใช้การทำการเกษตรในปัจจุบัน เนื่องจากมีความรวดเร็ว ประหยัดเวลา ช่วยเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร ทำเกษตรกรทำการปลูกได้อย่างเต็มที่ทุกฤดูกาล และใช้งานได้อย่างหลากหลาย นอกจากนี้แล้วยังช่วยให้เกษตรกรยังสามารถทำงานได้ทันช่วงฤดูกาล และที่สำคัญรถไถเดินตามยังสามารถนำไปดัดแปลงใช่ประโยชน์ใช้สอยในรูปแบบอื่น ๆ เช่นใช้รถไถเดินตามในการสูบน้ำบาดาล ใช่รถไถเดินตามติดตั้งหัวเกี่ยวข่าวจานบิน ใช้เสริมพ่วงรถไถเดินตามเป็นรถนั่งขับ ใช้เป็นเครื่องคัดแยกเมล็ดพันธ์ข้าวด้วยสนามไฟฟ้าและใช้เป็นเครื่องนวดข้าวขนาดเล็กตลอดจนใช้บรรทุกสิ่งของทางการเกษตร ซึ้งเกษตรไทยนิยมใช้ และดัดแปลงเพื่ออำนวยความประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ซึ้งทำให้รถไถเดินตามเป็นอีกปัจจัยหนึ่งของเกษตรกรไทย ในการนำมาใช้ในกิจกรรมทางด้านการเกษตรในยุคปัจจุบัน
โลกของเราปัจจุบันนี้ เกิดปัญหาต่างๆ หลายด้าน เช่น ปัญหาด้านเศรษฐกิจ น้ำมันแพง โลกร้อน สาเหตุเหล่านี้เกิดจากอะไร หากไม่ใช่การใช้สารเคมีที่มีปฏิกิริยาต่อชั้นบรรยากาศ ชาวนาต่างก็พากันประสบกับปัญหาด้านต่างๆ ที่ในสมันก่อนไม่เกิดขึ้น ปัจจุบันนี้ปัญหาน้ำมันเป็นปัญหาที่สำคัญ ชาวนาที่ใช้ควายเหล็กไถนาก็ประสบกับปัญหานี้ เพราะควายเหล็กใช้น้ำมันในการทำงานและก๊าซต่าง ๆ ที่ออกมาจากน้ำมัน ส่งผลกระทบต่อชั้นบรรยากาศ ส่งผลให้เกิดปัญหาโลกร้อนได้ หากวันเกิดวิกฤติน้ำมันหมดโลกควายเหล็กไม่สามารถใช้น้ำเปล่าเติมแล้วไถนาได้ แต่ควายไทยแม้น้ำมันจะหมดโลกก็ยังมีน้ำเปล่า น้ำในหนอง ที่ยังชุมชีวิตควายไทยไว้แล้วกลับมามีบทบาทหน้าที่ในการไถนาอย่างเดิม
ควายไทยถึงแม้จะใช้งานได้ไม่ดีเท่าควายเหล็ก แต่ควายก็ไม่ได้สร้างมลพิษให้กับโลก แม้วันนี้ชาวนาไทยจะส่งเสริมการทำนาด้วยควายเหล็กแทนที่จะใช้ควาย แต่ควายก็ยังเหลืออยู่บ้าง บางที่อาจเป็นศูนย์อนุรักษ์ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมหรือบางครั้งควายก็เป็นดาราจำเป็นสร้างความบันเทิงให้กับนักท่องเที่ยว หรือชาวนาอาจเลี้ยงไว้แต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์จากควาย สิ่งเหล่านี้หากย้อนกลับไปในอดีต ควายที่เคยไถนาเก่งกลับต้องมาเป็นสิ่งอนุกรักษ์ให้กับมนุย์ และสร้างความบันเทิงให้กับมนุษย์ หากอยากให้ควายไถนาชาวนาเองก็จะต้องเป็นผู้ฝึกให้ควายไถนาใหม่ เพราะควายไม่อาจลืมสัญชาตญาณของมันเองแล้วก็เป็นได้ หากชาวนาไม่หันกลับไปใช้ควายไถนาอย่างเดิม ควายก็จะไถนาไม่เป็น ไม่ทนต่อความยากลำบาก ไม่เชื่องเหมือนแต่ก่อน และที่สำคัญคนรุ่นหลังก็อาจจะไม่ได้เห็นหรือไม่รู้จักควายเลยก็เป็นได้ หากชาวนาไม่ยึดติดกับค่านิยมและมีคนสืบทอดการทำนาโดยใช้ควาย ควายไทยก็จะไม่สูญพันธุ์ แต่ทั้งนี้การอนุรักษ์ตวายในพิพิธภัณฑ์ก็สามารถยื้อชีวิตควายไว้ให้ลูกหลายรุ่นต่อไปได้เรียนรูวิถีชีวิตการทำนาแบบดั้งเดิม และนอกจากนี้การหยุดรับประทานเนื้อควายก็ช่วยลดการสูญพันธุ์ของควายได้เช่นกัน หากเกษตรกรใช้รถไถการทำเกษตรก็จะได้ผลผลิตดีขึ้น เพราะรถไถสามารถใช้งานได้เร็วกว่าการใช้แรงควายในการไถนาครั้งละหลายๆไร่ แต่อาจทำให้เพิ่มค่าใช้จ่ายในเรื่องของน้ำมันและการซ่มแซมเครื่องจักรหลังจากการใช้งาน
อย่างไรก็ตามไม่ว่าเกษตรกรจะใช้รถไถหรือควายในการทำเกษตรต่างก็ให้ผลผลิตกับเกษตรกรทั้งนั้น แต่หากเกษตรกรเลี้ยงควายเพื่อเป็นอาหารควายก็จะสูญพันธุ์ไปโดยปริยาย การอนุรักษ์ไม่ให้ควายสูญพันธุ์นั้นหลาย ๆ หน่วยงานได้มีการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์หรือศูนย์อนุรักษ์ควาย บางแห่งอาจจัดตั้งศูนย์สำหรับให้ความรู้ในเรื่องการใช้ควายไถนา เช่น โรงเรียนกาสรกสิวิทย์และนอกจากนี้ยังมีประเพณีที่ยังอนุรักษ์ไว้คือ ประเพณีวิ่งควาย จังหวัดชลบุรี ซึ่งก็ทำให้คนรุ่นหลังยังเห็นประโยชน์ของควายอยู่จนถึงปัจจุบันนี้
บรรณานุกรม
ศาสตราจารย์ ดร.จรัญ จันทลักขณา.ควายในระบไร่นาไทย.พิมพ์ครั้งที่ 1 .กุงเทพฯ:ไทยวัฒนาพาณิช,2527
Webmaster.อนาคต "ควายไทย" จากยุคเกษตรสู่อุตสาหกรรม,[ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : http://www.lannacorner.net/lanna2012/article/article.php?type=A&ID=459 (วันที่ค้นข้อมูล : 15
พฤศจิกายน 2555)
Webmaster.เรื่องควายๆที่คนไทยลืมคุณค่า.[ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก:
Webmaster.ควายไทยประทะควายเหล็ก.[ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก :
พะเยาโฟโต้คลับ.วิถีชีวิตชาวนาไทยกับควายเหล็ก.[ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก :
พฤศจิกายน 2555)
คุณไม่จำเป็นต้องเร่งด่วนเงินกู้? mrsstellareneloanfirm1@hotmail.com อีเมลสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกู้ยืมเงิน
ตอบลบ